tripgether.com

ปิดเกาะภูเก็ต 14 วัน! ห้ามเข้าทุกกรณี เริ่ม 3-16 สิงหาคม

1,230 ครั้ง
30 ก.ค. 2564

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ออกประกาศตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ให้ยกระดับมาตรการคักกรองการเดินทาง ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) ตั้งแต่วันที่ 3-16 สิงหาคม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น (พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต 50 ราย เสียชีวิต 1 ราย) และมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตและสุขภาพ

มีลักษณะการกระจายของโรคเป็นกลุ่มก้อนในหลายพื้นที่และมีการระบาดในวงกว้างที่เชื่อมโยง จังหวัดภูเก็ตจึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่มุ่งลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคล เพื่อสกัดกั้นการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดและอยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้

โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 45/2564 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 จึงลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 4202/2564 ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่า ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) เว้นแต่ เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ ดังต่อไปนี้

12 ประเภทตามประกาศที่ได้รับการยกเว้น

  • 1. รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย
  • 2. ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์
  • 3. ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์
  • 4. ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง
  • 5. ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน
  • 6. ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์
  • 7. ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสาร ของวันที่เดินทาง เท่านั้น
  • 8. ผู้ที่ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต
  • 9. ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
  • 10. ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
  • 11. ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการช่อมบำรุง เฉพาะที่ใช้ในการดำเนินการโครงการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย หรือโครงการของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหรือกรณีจำเป็นเร่งด่วน
  • 12. กรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจภูเก็ตเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี

ทั้งนี้ผู้ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม หรือ ซิโนแวค เข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 หรือได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า , ไฟเซอร์ , โมเดอร์นา , จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง

กรณีนักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้าออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษาให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางผ่านเข้าออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และออกใบรับรองให้มีผลใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน

ส่วนผู้มีนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 (ต้องมีใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่จังหวัดภูเก็ต) และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง

รวมทั้งต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะบนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

สำหรับการใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง ผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 23.00 . ถึงเวลา 04.00 . ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้นมีความจำเป็นเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.. 2558

ตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.. 2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.. 2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา : https://web.facebook.com/83ssj/photos/pcb.4378099942251997/4378099555585369


ข่าวประชาสัมพันธ์ที่น่าสนใจ


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ