tripgether.com

7 หมู่บ้านกอดหมอก นอนฟินไม่เหงามีเขาเป็นเพื่อน!!

6,232 ครั้ง
14 ก.ย. 2563

ช่วงกรีนซีซั่นแบบนี้ชวนคนที่บ้านเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติท่ามกลางขุนเขา ยิ่งเข้าใกล้ช่วงปลายฝนต้นหนาวเหมาะออกตามล่าสายหมอกสุดๆ วันนี้ทริปเก็ทเตอร์รวบรวมหมู่บ้านบรรยากาศดีที่นักเดินทางทั้งหลายต้องออกไปสัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความสวยงามของหมู่บ้านในแบบที่ไม่เหมือนใคร และหากใครที่อยากหยุดใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์หลีกหนีความวุ่นวายปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติตามล่าสายหมอกอยู่ละก็ ทริปเก็ทเตอร์ขอแนะนำ 7 หมู่บ้านสวยนอนกอดหมอกสบายๆ ในวันหยุด ตามมาดูเลยว่าแต่ละที่จะฟินเบอร์ไหน!

AW-6-140920-900


1.หมู่บ้านอีต่อง-ปิล็อก, กาญจนบุรี
(E-Tong Village)

หมู่บ้านอีต่อง-ปิล็อก หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยหมอกฟุ้งและเป็นเมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ปัจจุบันจึงกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตที่ผู้คนต่างพากันเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร สำหรับนักล่าหมอกทั้งหลายแนะนำให้เดินทางมาสัมผัสหมอกขาวในช่วงฤดูฝน เพราะคุณจะได้ภาพสุดโรแมนติกพร้อมทั้งได้พักผ่อนสูดอากาศอันบริสุทธิ์อีกด้วย สำหรับจุดเช็คอินท่องเที่ยวของที่นี่ก็มีหลากหลายอย่างสะพานเหมืองแร่ จุดที่หนุ่มสาวไม่ควรพลาดการเขียนข้อความเขียนชื่อคู่รักลงบนแผ่นไม้และนำมาผูกไว้บนสะพาน ซึ่งเป็เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหมู่บ้านอีต่อง-ปิล็อกมาอย่างยาวนาน 

ETong-1

ETong-2

ETong-3

การเดินทาง
     -เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ขับรถจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปยังอำเภอทองผาภูมิระยะทาง 146 กิโลเมตร จากนั้นขับรถต่อจากตัวอำเภอทองผาภูมิไปยังเหมืองปิล็อกระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร โดยเริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อขับมาถึงสี่แยกแก่งเสี้ยนให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังอำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ ถนนหมายเลข 323 จากนั้นขับต่อบนเส้นทาง 3272 เพื่อเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิขับผ่านตัวอำเภอ (อยู่ทางขวา) เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงแยกบ้านไร่-ปิล็อกให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล็อก เส้นทางนี้จะมีถนนคดเคี้ยวขึ้นเขา รถยนต์ทุกชนิดสามารถขับขึ้นไปได้เพียงแต่ระหว่างทางจะมีถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ ควรขับขี่ด้วยความเร็วต่ำและระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน เมื่อขับผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่น เหมืองสมศักดิ์ เนินช้างศึก ขับต่อไปเรื่อยๆ บนเส้นทางนี้จนสุดทางจะเป็นหมู่บ้านปิล็อก

     -เดินทางด้วยรถประจำทาง หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้ หากเดินทางจากกรุงเทพสามารถนั่งรถโดยสาร บขส. จากกรุงเทพ-ด่านเจดีย์สามองค์ มาลงที่อำเภอทองผาภูมิ จากนั้นต่อรถประจำทางสีเหลือง ทองผาภูมิ – อีต่อง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงถึงบ้านอีต่อง รอบรถขาขึ้นมี 3 รอบ คือ 10.30 น., 11.30 น. และ 12.30 น. รอบรถขาลงตั้งแต่เวลา 06.00 – 07.00 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ค่าโดยสารประมาณ 70 บาท/คน

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: ทริปบ้านอีต่อง ปิล็อก 3 วัน 2 คืน ลุยเหมืองสมศักดิ์ แวะน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ชมวิวทะเลหมอกเนินช้างศึก
20 โฮมสเตย์บ้านอีต่อง ติดริมน้ำ ใกล้ถนนคนเดิน เช็คอินหมู่บ้านเหมืองเก่าสุดอันซีน กลางขุนเขาและสายหมอก


2.หมู่บ้านรักไทย, แม่ฮ่องสอน
(Rak Thai Village)

หมู่บ้านรักไทย ตั้งอยู่ที่ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,776 เมตร รับรองถึงความฟินและธรรมชาติที่จัดเต็ม ด้วยพื้นที่เหมาะปลูกชาพันธุ์ดีและปลูกพืชผลเมืองหนาว ให้ทิวทัศน์ที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ ขุนเขา และโค้งน้ำอันสวยงาม สถานที่แห่งนี้จึงกลายมาเป็นจุดเช็คอินฮอตฮิตสำหรับนักเดินทางสายธรรมชาติ เหมาะชวนคนที่บ้านหนีมาพักผ่อนหย่อนใจไปกับความสบายและความเงียบสงบ พร้อมดื่มด่ำอาหารขึ้นชื่ออย่าง ขาหมู หมั่นโถว และชาร้อนที่เลื่องชื่ออย่างยาวนาน สำหรับใครที่กำลังมองหาจุดเช็คอินเที่ยวชิลล์ๆ ก็แวะมาพักผ่อนได้ที่ หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอนสักคืนสองคืน

Rakthai-1

Rakthai-1

Rakthai-1

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ใช้เส้นทางแม่ฮ่องสอน – ปาย (1095) ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จะเจอกับทางแยกซ้ายมือมีป้ายบอกทางไปภูโคลนให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป (เส้นทางเดียวกับภูโคลน) มีระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร จากนั้นให้ขับตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางนี้จะผ่านภูโคลน น้ำตกผ่าเสื่อ และพระตำหนักปางตอง ขับเลยบ้านรวมไทยไปอีก 7 กิโลเมตรก็จะถึงบ้านรักไทย (เส้นทางนี้มีโค้งหักศอกและค่อนข้างชันควรขับรถด้วยความระมัดระวัง)

     -การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ นั่งรถจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ขึ้นรถสองแถวสายแม่ฮ่องสอน – บ้านรักไทย (แม่ออ) ท่ารถจะอยู่หลังตลาดสายหยุด (แม่ฮ่องสอน) รถมีวันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 13.00 น. จะจอกส่งกลางหมู่บ้าน หรือสามารถเลือกลงที่อ่างเก็บน้ำก็ได้ ค่าโดยสารประมาณ 70 บาท/คน ขากลับสามารถขึ้นรถได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน หรืออ่างเก็บน้ำก็ได้ รถออกเวลา 07.00 น.

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: อัปเดต 5 ที่พักบ้านรักไทย ดีไซน์สวย วิวปัง สัมผัสชีวิตแบบจีนยูนนาน สวรรค์กลางหุบเขา
 แม่ฮ่องสอน 4 วัน 3 คืน เส้นทางเที่ยวสายโรแมนติก ผ่าน 4,088 โค้ง เส้นทางเดียวเที่ยวได้ครบ
 ลุย! แม่ฮ่องสอน 2 วัน 1 คืน ปาย-จ่าโบ่-รักไทย เที่ยวแบบมีเวลาน้อย แต่เก็บหมดทุกความสุข


3.หมู่บ้านสะปัน, น่าน
(SaPun Village)

หมู่บ้านสะปัน จุดเช็คอินเนิบๆ ตั้งอยู่ที่อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ชุมชนเล็กๆ ที่มาพร้อมความเงียบสงบเหมาะแก่การหนีความวุ่นวายไปใช้ชีวิตแสนเนิบช้าพักผ่อนไปกับธารน้ำไหล ยิ่งเดินทางไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนยิ่งฟินไปกับทิวทัศน์ของทุ่งนาข้าวสีเขียวและสายหมอกฟุ้งยามเช้า อากาศก็จะเย็นสบายเหมาะชวนแฟนมานอนสวีทท่ามกลางบรรยากาศเย็นสูดโอโซนชั้นดี ที่พักในแต่ละโซนของที่นี่เน้นพักผ่อนชมวิถีชีวิตของคนน่าน พร้อมสัมผัสกลิ่นอายของชุมชนวิวแม่น้ำ โดยที่พักมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวทั้ง สะพานแขวนสะปัน น้ำตกสะปัน ถนนคนเดินสะปัน และมุมถ่ายรูปชิคๆ อย่าง สะพานกลางหมู่บ้านสะปันที่ใครได้ไปเยือนสะปัน จ.น่าน แห่งนี้แล้วต้องแวะถ่ายรูปไว้ให้หวนนึกถึงความทรงจำดีๆ อีกครั้ง หากใครกำลังวางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่านก็แวะไปสโลว์ไลฟ์ได้ที่ หมู่บ้านสะปัน

Sapun-1

Sapun-1

Sapun-1

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ใช้เส้นทางจากตัวเมืองน่านวิ่งบนถนนสันติสุข บ่อเกลือ หรือเส้นทางปัว ดอยภูคา บ่อเกลือ จากนั้นมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอบ่อเกลือระยะกว่า 100 เมตร ขับเข้ามาเจอสะพานข้ามคลองให้ขับข้ามสะพานมาจะเจอกับสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางอุทยานแห่งชาติขุนน่าน จากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆ จะถึงหมู่บ้านสะปัน

     -การเดินทางด้วยรถโดยสาร นั่งรถจากกรุงเทพ หรือตัวเมืองน่าน สามารถมาลงรถได้ที่ตลาดปัว จากนั้นให้ต่อรถสองแถวสายปัว – บ่อเกลือ หรือสามารถเหมารถโดยสารปัว – สะปัน 1,000 บาท/เที่ยว เดินทาง 1 – 4 คน เหมา 200 บาท/เที่ยว หากเดินทาง 5 คนขึ้นไป คนละ 50 บาท
ตารางเดินรถ ปัว – บ่อเกลือ
เวลา 07.30 น. และ 09.00 น. (อาจจะมี หรือไม่มีรอบขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร) ค่าโดยสาร 80 บาท/คน
ตารางเดินรถ บ่อเกลือ – ปัว
เวลา 09.00 น. ค่าโดยสาร 80 บาท/คน

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 20 ที่พักน่าน หมู่บ้านสะปัน บ่อเกลือ อากาศดี ฟินเวอร์


4.หมู่บ้านแม่แมะ, เชียงใหม่
(MaeMae Village)

หมู่บ้านแม่แมะ สถานที่ธรรมชาติสุดชิลล์ ตั้งอยู่ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของขุนเขา มีลำห้วยเล็กๆ ไหลผ่าน บรรยากาศดีต่อใจมาก เพราะพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์รายล้อมไปด้วยป่าไม้เสมือนมานอนอยู่ในบ้านต้นไม้กลางป่าใหญ่ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กลางธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับผู้คนที่ต้องการหลีกหนีความพลุกพล่านในเมืองมานอนพักผ่อนปล่อยตัวปล่อยใจใช้ชีวิตแบบเงียบสงบในหมู่บ้านโฮมสเตย์ หมู่บ้านแม่แมะแห่งนี้มีที่พักทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน สำหรับการเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนแบบนี้บอกเลยฟินที่สุดแล้ว เพราะยามเช้าจะได้เจอกับหมอกขาวฟุ้งทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้ง ถ้ำเชียงดาว วัดถ้ำเชียงดาว และอีกหลากหลายจุดเช็คอินที่นักล่าหมอกไม่ควรพลาด

maemae-1

maemae-1

maemae-1

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่ – แม่ริม – เชียงดาว ก่อนเข้าตัวเมืองเชียงดาวประมาณ 4 – 5 กิโลเมตร ให้สังเกตป้ายบอกทางไปบ้านแม่แมะทางซ้ายมือ จากนั้นขับรถต่อไปอีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านแม่แมะ (มีป้ายบอกทางตลอดเส้นทาง)

     -การเดินทางด้วยรถโดยสาร สามารถนั่งรถบัส 40 บาท รถตู้โดยสาร 150 บาท (เชียงใหม่ – ฝาง ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือก) หรือรถสองแถวจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปอ.เชียงดาว บอกคนขับรถได้เลยว่า ขอนั่งไปลงปากทางบ้านแม่แมะ จากนั้นโทรให้ทางรีสอร์ทส่งรถมารับ (แนะนำให้โทรนัดกับทางที่พักก่อน เพื่อความสะดวกและนัดหมายก่อนการเดินทาง)

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 2 วัน 1 คืน หนีความวุ่นวาย ตามหาความสโลว์ไลฟ์ที่เชียงดาว


5.หมู่บ้านผาฮี้, เชียงราย
(Pha Hee Village)

หมู่บ้านผาฮี้ หมู่บ้านชายแดนที่รายล้อมไปด้วยขุนเขา อีกหนึ่งหมู่บ้านน่ารักๆ ที่นักล่าหมอกทุกคนต้องไปสัมผัส นอกจากบรรยากาศที่สบายแล้ว ยังเพียบพร้อมไปด้วยโฮมสเตย์น่ารักราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย แม้จะเป็นสถานที่ที่ผู้คนไม่ค่อยคุ้นชินกันนักแต่ก็เพราะแบบนี้แหละ หมู่บ้านผาฮี้จึงเหมาะเป็นสถานที่หนีไปพักผ่อนหน่อยใจหลังจากที่เหนื่อยล้าจากงานมาแล้วทั้งสัปดาห์ ด้วยผืนป่าและะทิวทัศน์ของขุนเขาที่โอบล้อมหมู่บ้านแห่งนี้เอาไว้ทำให้การเดินทางตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยกลิ่นของธรรมชาติและการได้มานอนโฮมสเตย์บนดอยแห่งนี้ทำให้ยามเช้าได้ตื่นขึ้นมาเจอหมอกขาวฟุ้งไปทั่วทั้งดอยฟินกันไปได้ตอลดทั้งวัน ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยแหล่งปลูกกาแฟที่คัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพส่งลงไปขายตามร้านกาแฟต่างๆ ในเมือง ใครที่กำลังอยากหนีเมืองอันแสนวุ่นวายอยู่ก็ขอแนะนำให้ไปพักผ่อนที่หมู่บ้านผาฮี้สักวันสองวันรับรองได้ชาร์จแบตเต็มแน่นอน

Phahee-1

Phahee-1

Phahee-1ขอบคุณรูปภาพจาก: Muilah Phahee Coffe และ Phahee Villey

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ขับรถจากตัวเมืองเชียงรายมุ่งหน้ายังไปยังอำเภอแม่สาย จากนั้นให้เข้าซอยร้านจันกะผักเป็นทางขึ้นเดียวกันกับทางไปดอยผาหมี ปากซอยจะมีป้ายบอกอยู่อย่างชัดเจน ให้ขับรถผ่านดอยผาหมีไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตรก็มาถึงหมู่บ้านผาฮี้กันแล้ว (เส้นทางค่อนข้างชัน แนะนำให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง)

     -เดินทางด้วยรถโดยสาร นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ-แม่สาย มาลงที่ขนส่งอำเภอแม่สาย จากนั้นให้ติดต่อกับทางที่พักให้ส่งรถมารับ (แนะนำให้ติดต่อกับทางที่พักก่อนการเดินทาง)

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 5 คาเฟ่ผาฮี้ เชียงราย นั่งห้อยขาจิบแฟ


6.หมู่บ้านจ่าโบ่, แม่ฮ่องสอน
(Jha Boo Village)

หมู่บ้านจ่าโบ่ หรือชุมชนบ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ที่อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน สถานที่สัมผัสความหนาวที่คนกรุงเทพต่างพากันจัดทริปชิคๆ เดินทางชิลล์ๆ ชุมชนชาวเขาบนดอยสูง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอ.ปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้มาสัมผัมทะเลหมอกสวยทิวทัศน์ขุนเขากันแล้ว ด้วยเอกลักษณ์ของหมู่บ้านเล็กๆ ทำให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านซึ่งใช้ภาษาและเครื่องแต่งกายแบบลาหู่ แบ่งออกเป็น 3 ชาติพันธุ์ คือ มูเซอแดง มูเซอดำ และมูเซอเหลือง การมาพักผ่อนที่นี่นอกจากจะได้นอนมองวิวของขุนเขาที่สลับซับซ้อนกันแล้ว ยังได้ใช้ชีวิตแบบเนิบๆ เคล้ากลิ่นอายของชาวบ้านอีกด้วย โฮมสเตย์ของที่นี่มีหลากหลายแบบด้วยกัน สำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่รับรองว่าคุณจะได้เอนกายชาร์จแบตได้เต็มก่อนกลับไปลุยงานต่ออย่างแน่นอน

Baanjhabo_1

Baanjhabo-2

Baanjhabo_3

**อยู่ในช่วงปรับปรุงพื้นที่จากเหตุดินสไลด์ ติดตามประกาศเปิดให้บริการผ่านทาง สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.แม่ฮ่องสอน และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์
ขับรถออกจากอำเภอปาย วิ่งบนถนนเส้นทางหลัก 1095 มุ่งหน้าไปยังแม่ฮ่องสอน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนน 1226 ทางเดียวกับบ้านแม่ละนา ขับตามเส้นทางไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรจะเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยว บ้านจ่าโบ่จะอยู่ทางขวามือ (เส้นทางนี้รถยนต์สามารถขึ้นไปได้ทุกชนิด อาจจะมีเส้นทางลาดชันแต่มีเพียงระยะสั้นๆ แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำและควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ)

     -การเดินทางด้วยรถโดยสาร นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ-แม่ฮ่องสอน มาลงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจากนั้นก็เช่ารถจักรยานยนต์ขับต่อไปยังหมู่บ้านก็ได้ แต่หากนั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถนั่งรถตู้จากเชียงใหม่ไปลงที่แม่ฮ่องสอนได้ บอกคนขับรถว่าลงรถที่อำเภอปาย จากนั้นจึงเช่ารถจักรยานยนต์ขับต่อไปอีกประมาณ 56 กิโลเมตร ก็ได้บรรยากาศดีเช่นกัน แต่หากมากันเป็นกลุ่มใหญ่สามารถเหมารถจากในหมู่บ้านให้มารับ แบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีคุ้มค่าแถมสะดวกสบายสุดๆ อีกด้วย

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 5 โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ่ ปางมะผ้า หนาวนี้เก็บกระเป๋า ไปนอนดูดาว สัมผัสอากาศเย็นๆ กัน
ไปมาแล้ว! 5 จุดเช็คอินบ้านจ่าโบ่ ปางมะผ้า มาเยือนทั้งทีต้องเก็บให้ครบ


7.หมู่บ้านผาหมี, เชียงราย
(Pha Mhe Village)

หมู่บ้านผาหมี หรือดอยผาหมี หมู่บ้านแห่งประวัติศาสตร์กลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนกว่า 300 หลัง ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวภูเขาชนเผ่าอาข่า บ้านเรือนตั้งอยู่ริมไหล่เขาให้บรรยากาศที่สบายพร้อมชมวิวสวยของต้นไม้สีเขียวและทิวทัศน์ขุนเขาได้แบบ 360 องศา ด้วยทัศนียภาพที่งดงามมาพร้อมกับอากาศเย็นในแบบที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงมุมไหนของหมู่บ้านก็สัมผัสได้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบเพราะผู้คนไม่พลุกพล่านเหมาะหนีมาใช้ชีวิตเรียบง่ายสุดๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านมีอาชีพหลักคือ การทำกาแฟจนกลายมาเป็นแหล่งผลิตกาแฟรายใหญ่และมีชื่อเสียงพอสมควร สำหรับโฮมสเตย์ของที่นี่ไม่ต้องพูดถึงความสวยงามเพราะอยากให้ทุกคนได้ขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเอง เอาเป็นว่าใครที่กำลังหาจุดเช็คอินชิลล์ๆ อากาศดี มีวิวสวยหลักล้านก็แวะมาเอนกายกันได้ที่ หมู่บ้านผาหมี จ.เชียงราย

Phamhee-1

Phamhee-1

Phamhee-1ขอบคุณรูปภาพจาก: ม่านฟ้า โฮมสเตย์ และบูซอ โฮมสเตย์

การเดินทาง
     -การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ขับรถจากตัวเมืองเชียงรายมุ่งหน้าไปยังอำเภอแม่สาย ขับผ่านร้านจันกะผักแล้วให้เข้าซอยมาซึ่งจะอยู่เลยร้านนิดหน่อย บริเวณหน้าปากซอยจะมีป้ายบอกทางอยู่อย่างชัดเจน เส้นทางค่อนข้างชันแนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำและขับรถอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

     -การเดินทางด้วยรถโดยสาร สามารถนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ-แม่สาย มาลงที่ขนส่งแล้วติดต่อให้ทางที่พักส่งรถมารับได้เลย (ต้องติดต่อกับทางที่พักก่อนออกเดินทาง)

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 5 ที่พักดอยผาหมี เชียงราย นอนแนบชิดอิงเขา เช้าชมทะเลหมอก


ผู้เขียน

ampampaamp
นัก(หัด)เขียน ที่ฝันอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย เงียบสงบ กับธรรมชาติ ,ชื่นชอบเรื่องไลฟ์สไตล์ การแต่งบ้าน เบเกอรี่ พอๆ กับการท่องเที่ยว แต่มักใช้เวลาว่างหมดไปกับการนอนดูซีรีส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ