15 จุดเช็คอินสะพานไม้กลางทุ่งนา แวะไปชิลล์ได้ถ่ายรูปสวยอวดเพื่อนเก๋ๆ

เที่ยวแบบกรีนๆ ด้วยจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยกับสะพานไม้กลางทุ่งนาที่ทริปเก็ทเตอร์ลิสต์มาให้แล้วกับ 15 แลนด์มาร์กกลางทุ่งนาที่เหมาะไปเช็คอินแชะภาพไปอัพโซเชียลรัวๆ ได้ทุกฤดูไม่ว่าจะร้อนจะฝนจะหนาวก็ฟินหมด ช่วงวันหยุดนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะหาสถานที่หนีฝุ่นควันจากกรุงเทพไปนั่งชิลล์สูดโอโซนดีๆ ให้ฉ่ำปอดก่อนกลับมาลุยงานกันต่อในวันทำงานอีกด้วย ตามมาดูกันเลยว่าแต่ละที่จะดีย์เบอร์ไหน

---

1.สะพานทุ่งนามุ้ย, นครนายก
(Saphan Thungna Muy)

หนีฝุ่นมาเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพอย่าง สะพานทุ่งนามุ้ย บนพื้นที่กว่า 15 ไร่มาพร้อมสะพานไม้ยาวกว่า 150 เมตร เมื่อจอดรถและเดินเข้ามาก็จะมีจุดให้หยอดเงินคนละ 10 บาทเป็นการบริจาคเพื่อช่วยซ่อมแซมสะพานไม้เพื่อเปลี่ยนไม้ให้เพื่อนๆ ได้มาเที่ยวถ่ายรูปกันได้ตลอด ที่มาของชื่อสะพานทุ่งนามุ้ยคือ แต่ก่อนนี้ที่สะพานทุ่งนามุ้ยแห่งนี้เป็นป่าหมามุ่ยแต่คนพวนเรียกเพี้ยนจนกลายเป็นคำว่า มุ้ย จึงเรียกติดปากจนมาจนถึงปัจจุบัน และกว่าจะมาเป็นแลนด์มาร์กแบบนี้ได้เกิดจากการสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำการเกษตรเพื่อช่วยผ่อนแรงในการทำนา ซึ่งนาที่นี่จะปลูกปีละ 2 รอบด้วยกันในช่วงเดือนสิงหาคมแบบนี้ก็จะสามารถชมความเขียวขจีของทุ่งนาได้แบบฟินสุด ซึ่งภายในทุ่งนามุ้ยแห่งนี้ก็มีร้านกาแฟเล็กๆ พร้อมพื้นที่ให้นั่งสบายๆ นอกจากการเดินถ่ายรูปที่สะพานไม้อีกด้วย

Location: 88 ม.11 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
Open-Close: ร้านกาแฟเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. / สะพานทุ่งนามุ้ยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น.
Phone: 094 493 4321
Fee: ค่าเข้าชม 10 บาท
Facebook: สะพานทุ่งนามุ้ย

---

2.มีนา คาเฟ่, กาญจนบุรี
(Meena Cafe)

ต่อด้วยคาเฟ่สไตล์ทุ่งนารุ่นบุกเบิกอย่าง มีนาคาเฟ่ ที่มาพร้อมสไตล์ร้านสุดโมเดิร์นลอฟท์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในส่วนของบริเวณชั้นล่างเป็นมุมนั่งชิลล์ในห้องแอร์มุมหนึ่งติดกระจกใสสามารถนั่งมองวิวทุ่งนาได้อย่างชัดเจน ในส่วนของชั้นดาดฟ้าสามารถขึ้นไปนั่งรับลมเย็นๆ พร้อมชมวิวธรรมชาติโดยรอบได้แบบมุมสูงซึ่งเป็นอีกมุมถ่ายรูปสวยของร้านเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถมองวิวของวัดถ้ำเสือที่สวยงามในทุกช่วงเวลาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ในส่วนของเมนูอาหารมีให้ลิ้มลองทั้งเมนูเครื่องดื่มเติมความสดชื่นระหว่างวันและเบเกอรี่ที่จะมาเติมความหวานให้สาวๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งใครแวะมานั่งในช่วงเย็นที่ตะวันจะลาลับขอบฟ้าแล้วนั้นจะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งบรรยากาศสุดผ่อนคลายที่หาได้เฉพาะที่ มีนาคาเฟ่ เท่านั้น

Location: 75/18 ม.3 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 08.30 – 19.00 น.
Phone: 085 681 8187
Facebook: มีนา cafe’ , Kanchanaburi

---

3.มองเทรอส์ คาเฟ่ & ฟาร์ม, นครนายก
(Montreux Cafe’ & Farm)

คาเฟ่สไตล์ฟาร์มสุดชิลล์เหมาะไปนั่งกินข้าวในวันหยุดพร้อมสัมผัสความสุขแสนเก๋ด้วยชื่อร้าน มองเทรอส์ ที่มาจากเมืองตากอากาศริมทะเลสาบในสวิตเซอร์แลนด์ที่เจ้าของร้านได้ไปสัมผัสมาแล้วสวยโดนใจจนต้องนำกลับมาตั้งชื่อร้านกันเลยทีเดียว ด้วยบรรยากาศโดยรอบที่ออกแบบมาในสไตล์คันทรี่โรงนาผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ภายในร้านโปร่งโล่งด้วยหลังคาทรงสูงมุมหนึ่งของร้านติดกระจกบานใหญ่ให้สามารถนั่งจิบกาแฟพร้อมบรรยากาศอันเขียวขจีของร้านได้อย่างชัดเจน ในส่วนของเมนูอาหารมีให้ลิ้มลองทั้งเมนูคาวหวานและเครื่องดื่มสุดสดชื่น หากใครกำลังหาร้านใกล้ๆ กรุงเทพไปนั่งชิลล์อยู่ก็แวะไปที่ร้าน Montreux Cafe’ & Farm

Location: 77 ม.4 ต.บึงศาล อ.องครักษ์ จ.นครนายก
Open-Close: เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 09:00 – 19:00 น. (ร้านปิดทุกวันจันทร์)
Phone: 092 636 0606
Facebook: Montreux cafe’ and farm

---

4.สะพานซูตองเป้, แม่ฮ่องสอน
(Zutongpae Bridge)

สะพานแห่งบุญที่ใช้คำว่า ซูตองเป้ ที่เป็นภาษาไทยใหญ่มีความหมายว่า “อธิษฐานสำเร็จ” ซึ่งมีความเชื่อว่าหากมายืนอยู่ตรงกลางสะพานแล้วอธิษฐานจะประสบผลสำเร็จ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องเที่ยวได้มาเยือนปายต่างก็พากันมาแวะถ่ายภาพกับสะพานซูตองเป้ที่มีไฮไลท์คือ สะพานจะทอดยาวผ่านทุ่งนาไปยังสวนธรรมภูสมะนั่นเอง หากใครอยากไปเที่ยวปายแล้วต้องมีลิสต์สะพานซูตองเป้เอาไว้ในแพลนอย่างแน่นอน ซึ่งฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ปลายเดือนตุลาคมทำให้สามารถถ่ายภาพกกับท้องทุ่งสีเขียวในแบบที่แตกต่างจากช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะช่วงนี้ท้องทุ่งข้าวจะออกรวงจนกลายเป็นทุ่งนาสีเหลืองอร่ามกันเลยทีเดียว

Location: ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน
ช่วงเวลา: ทุ่งนาสีเขียวช่วงเดือน กันยายน – ปลายเดือนตุลาคม, ข้าวออกรวงสีเหลืองทองกลางเดือนพฤศจิกายน

---

5.นาข้าวคาเฟ่, พิษณุโลก
(Nakao Cafe)

นาข้าวคาเฟ่ คาเฟ่สุดเขียวขจีด้วยการตกแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ตัดกันได้อย่างลงตัวโดดเด่นอยู่กลางท้องทุ่ง ภายในเน้นความโปร่งโล่งด้วยหลังคาทรงสูงมาพร้อมผนังบล็อกปูนเปลือยเท่ๆ ติดกระจกบานใหญ่รอบร้านให้แสงจากด้านนอกส่องเข้ามาภายในร้านทำให้ร้านดูสว่างขึ้น ในส่วนโซนเอ้าท์ดอร์ของร้านเป็นซุ้มเถียงนาให้นั่งเรียบรายกันสามารถมองเห็นวิวสวยได้ไม่ต่างกัน เมนูอาหารของร้านมีให้เลือกรับประทานเพียบทั้งอาหารจานเดียว เครื่องดื่มเติมความสดชื่น และเบเกอรี่หวานอร่อย นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เด็ดของร้านที่จะมาเปลี่ยนวันพักผ่อนของคุณให้กิ๊บเก๋ด้วยการออกไปเดินถ่ายรูปกับสะพานไม้ที่ทอดยาวอยู่บนท้องทุ่งสีเขียวสุดชิลล์ ที่นี่ยังมีมุมถ่ายรูปอีกเพียบให้เลือกทั้งชิงช้า หอคอย และอีกหลากหลายมุมสวยถูกใจสาวๆ แน่นอน

Location: 545 ม.1 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 – 21.00 น. (หยุดเดือนละ 1 วัน ติดตามได้จาก Facebook Fanpage)
Phone: 093 530 2772
Facebook: นาข้าว คาเฟ่’

---

6.รักษ์คันนา คาเฟ่, กาญจนบุรี
(Rakkanna Cafe)

รักษ์คันนา คาเฟ่ คาเฟ่ที่สามารถชมความสวยงามของวัดถ้ำเสือได้อย่างเต็มตา เป็นการเรียกน้ำย่อยและนั่งพักจิบกาแฟก่อนเดินทางขึ้นไปชมความสวยงามของจริง ตัวร้านเป็นกระท่อมไม้ไผ่หลังคามุงด้วยใบจากแบบโอเพ่นแอร์ให้นั่งรับลมเย็นๆ ของธรรมชาติพร้อมดื่มด่ำความสวยงามของท้องทุ่ง โต๊ะเป็นบาร์นั่งห้อยขาใกล้ชิดกับท้องนา อีกทั้งยังมีโต๊ะบาร์ริมน้ำให้นั่งสัมผัสบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ สะพานไม้ทอดยาวบนทุ่งนาสีเขียวขจีที่ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปกับวิวนาและวัดถ้ำเสือได้สบายๆ ในส่วนของเมนูอาหารมีให้เลือกทั้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซ่บอร่อยครบเครื่อง เค้ก เบเกอรี่ และเครื่องดื่มทั้งชา กาแฟ อิตาเลียนโซดาเติมความสดชื่นยามบ่ายได้เป็นอย่างดี

Location: 88 ม.5 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 08.30 – 19.00 น.
Phone: 080 061 6888
Facebook: รักษ์คันนา กาญจนบุรี

---

7.เอเดน ฟาร์ม, นครนายก
(Aden Farm)

ศูนย์รวมความรู้และความอร่อยซึ่งเป็นจุดเช็คอินศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายก บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ที่แบ่งโซนให้เลือกนั่งได้สบายๆ ทั้งโซนอินดอร์ในห้องแอร์และโซนเอ้าท์ดอร์ติดทุ่งนา โดยเฉพาะโซนนี้ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบทั้งสะพานกลางทุ่งนา ชิงช้ากลางทุ่ง ศาลาริมน้ำ สะพานบนต้นไม้ และมุมสวยๆ อีกเพียบ เอาใจคนรักการถ่ายรูปตั้งแต่เข้ามาจอดรถด้วยกองทัพร่มสีสันสดใสให้ได้แวะถ่ายภาพกันตั้งแต่หน้าร้าน ในส่วนของอาหารที่นี่เน้นเสิร์ฟเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คัดสรรวัตถุดิบต่างๆ ในการปรุงมาอย่างใส่ใจเหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพที่ตามหาร้านอาหารวิวดี บรรยากาศเด็ด อาหารอร่อยต้องแวะมาที่ Aden Farm

Location: 22 ม.9 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก
Open-Close: ร้านเปิดเวลา 09.00 – 19.00 น.
Phone: 081 375 0342, 081 306 4172
Facebook: เอเดนฟาร์ม

---

8.แซ่บนัว @ศาลายา, นครปฐม
(Zapnua Salaya)

แซ่บนัว @ครัวศาลายา ร้านอาหารอีสานสุดแซ่บเดินทางสะดวกใกล้กรุงเทพ ที่มาพร้อมบรรยากาศสวยๆ ด้วยตัวร้านที่ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์อีสานคาเฟ่ท่ามกลางวิวธรรมชาติ สำหรับไฮไลท์เด็ดๆ ของร้านอย่างสระน้ำสีมรกตกลางร้านที่มีเปลตาข่ายยื่นตัวออกไปบนผิวน้ำให้ออกไปนั่งถ่ายรูปได้ สำหรับมุมฮิตอีกหนึ่งที่คือ โซนสะพานกลางทุ่งนาที่มีเปลตาข่ายให้ลงไปนั่งถ่ายรูปได้เหมือนกัน ในส่วนของเมนูอาหารที่นี่มีทั้งตำเหลารวมมิตร น้ำตกกระทะร้อน ออเดิร์ฟอีสาน ไก่ย่าง และต้มโคล้งปลาดุกย่าง ในส่วนของมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกหนึ่งที่คือ ชิงช้ารังนกบาหลีวิวทุ่งนาที่ถ่ายรูปออกมาสวยเด็ดไม่แพ้มุมอื่นเช่นกัน

Location: 150/40 ม.1 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 10.30 – 23.00 น. (ครัวปิด 21.30 น.)
Phone: 034 102 120, 096 696 4616
Facebook: แซ่บนัว ครัวบ้านนาศาลายา 

---

9.กลางนา คาเฟ่, นครนายก
(Klangna Cafe)

นั่งซุ้มชมวิวท้องนาที่ กลางนา คาเฟ่ ตัวร้านออกแบบมาในสไตล์ลอฟท์ผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นได้อย่างลงตัว บริเวณโซนสั่งอาหารมีโต๊ะบาร์สำหรับนั่งชิลล์อยู่ในห้องแอร์ ต่อมาเป็นโซนห้องแอร์ถัดจากห้องสั่งอาหารสามารถมานั่งมองวิวสวยได้เพราะโซนนี้ติดกระจกใสบานใหญ่ไว้ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ห้องได้อย่างดี และอีกโซนที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งรับลมเย็นๆ กับบรรยากาศธรรมชาติคือ ซุ้มกลางนา ซึ่งในโซนนี้สามารถพาน้องหมาน้องแมวมาด้วยได้สำหรับคนรักสัตว์ ในส่วนของเมนูอาหารมีให้เลือกทั้ง พิซซ่าทอดเป็นชิ้นกลมๆ สอดไส้ปูอัดชีส ค็อกเทลชีส พาสต้าไส้หรอกไข่เค็ม ไส้กรอกชีส และอีกหลายเมนูน่าลิ้มลอง

Location: 222 ม.10 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี – วันอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.30 – 18.00 น. (หยุดทุกวันพุธยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
Phone: 081 577 7663
Facebook: กลางนาcafe’

---

10.สะพานนา คาเฟ่, กาญจนบุรี
(Sapanna Cafe)

คาเฟ่ชิลล์ๆ ที่มาพร้อมสะพานกลางทุ่งนาด้วยตัวร้านตกแต่งสไตล์โรงนาสุดโมเดิร์นมาพร้อมกระจกใสมองทะลุออกมาเห็นวิวสวยได้จากในตัวร้าน มีโซนให้เลือกนั่งทั้งอินดอร์ในห้องแอร์และเอ้าท์ดอร์รับลมเย็นๆ จากธรรมชาติ สามารถเดินทางจากกรุงเทพมาสัมผัสความชิลล์ได้สบายๆ ในส่วนของเมนูอาหารมีทั้งคาวหวานเลือกสรรได้ตามใจชอบทั้ง ส้มตำ ยำ สปาเก็ตตี้ ผัดไทย ข้าวผัด เบเกอรี่ และเครื่องดื่มมากมายน่าลิ้มลอง หากใครกำลังหาร้านน่านั่งบรรยากาศดีลองแวะมาที่ สะพานนา คาเฟ่

Location: หลังวัดถ้ำเสือ-วัดถ้ำเขาน้อย ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 09.00 – 19.00 น.
Phone: 081 941 8889
Facebook: สะพานนา คาเฟ่

---

11.ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ, น่าน

ร้านกาแฟกลางทุ่งนาสไตล์ไทลื้อมาพร้อมสะพานไม้ไผ่สุดเก๋ที่ทอดตัวยาวกลางทุ่งนา เป็นไฮไลท์เด็ดที่ใครได้มาเยือน ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ แล้วไม่มาถ่ายรูปที่มุมนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง ซึ่งที่นี่มีเมนูเครื่องดื่มมากมายน่าลิ้มลองทั้ง กาแฟ ชา และอีกเมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ที่จะมาเติมความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีมุมสวยๆ ชิลล์ๆ ให้ไปเดินถ่ายรูปเก็บความทรงจำอีกเพียบทั้งมุมกระท่อมกลางนา หรือใครอยากจะไปนั่งโซนระเบียงก็ได้ฟีลดีไปอีกแบบนะ

Location: 164 หมู่ 4 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน 55120
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 08.00 – 17.00 น.
Phone: 081 882 7767, 089 264 6058, 054 792 371
Facebook: โฮมสเตย์กาแฟบ้านไทลื้อ

---

12.นาตาชม คอฟฟี่, เพชรบุรี
(Natachom Coffee)

นาตาชม คอฟฟี่ คาเฟ่สไตล์ลอฟท์รายล้อมไปด้วยต้นไม้และท้องทุ่งนาที่ควรค่าแก่การพาร่างกายไปนั่งชิลล์สัมผัสความสบายสุดผ่อนคลาย ภายในตัวร้านตกแต่งเน้นงานไม้โทนสีเข้ม มุมหนึ่งของร้านติดประตูกระจกบ้านใหญ่ให้มองเห็นวิวด้านนอกได้ และยังมีโซนนั่งชิลล์ด้านนอกร้านเป็นโต๊ะบาร์ยาวนั่งรับลมจิบเครื่องดื่มไปฟินๆ และนอกจากนี้ยังมีโซนซุ้มหลังคามุงจากเรียงรายอยู่บนท้องทุ่งนั่งกินข้าวแบบโคตรชิลล์ หากชอบถ่ายรูปแนะนำไฮไลท์เด็ดคือสะพานไม้ทอดยาวเดินเล่นก็ชิลล์ถ่ายรูปก็ดีและยังมีชิงช้ารังนกให้ถ่ายรูปสวยๆ พร้อมพื้นหลังสุดเขียวขจีที่คนรักการถ่ายรูปไม่ควรพลาด

Location: นาตาชม คอฟฟี่ บ้านทางหลวง พบ.4032 ต.ไร่ส้ม อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
Open-Close: เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00-18.00 น.
Phone: 090 636 2698
Facebook: นาตาชมคอฟฟี่ เพชรบุรี 

---

13.แบรนด์นิว ฟีลด์กู๊ด, เชียงใหม่
(Brandnew Field Good)

Brandnew Field Good คาเฟ่ตั้งอยู่ที่บ้านปงท่ามกลางท้องทุ่งนาอันเขียวขจีเรียกแขกให้เข้ามาเชยชมได้ดีกับบรรยากาศสบายๆ พร้อมกับสะพานไม้กลางทุ่งนาที่ทอดตัวยาวเป็นทางเดินเข้าตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงตัวร้านด้านใน ซึ่งตลอดทางก็จะมีจุดแวะถ่ายรูปชิคๆ เป็นมุมสวยที่ใครได้มาแล้วต้องแวะตามจุดต่างๆ ของสะพานเพื่อเก็บภาพบรรยากาศเหล่านี้เอาไว้ ตัวร้านตกแต่งเรียบง่ายเน้นวัสดุกลมกลืนกับธรรมชาติที่มีโซนให้เลือกนั่งหลากหลายทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกทั้งคาวหวานที่รับรองเลยว่าใครได้มาเยือนแล้วต้อง Feel so Good อย่างแน่นอน

Location: ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่
Open-Close: เปิดบริการเวลา 09.30-18.30 น. (ร้านหยุดทุกวันอังคาร)
Phone: 097 978 8456
Facebook: Brandnew Field Good

---

14.เจียงดารา, เชียงใหม่
(Jiang Dara)

ชื่อสุดไพเราะที่มาพร้อมกับบรรยากาศสบายๆ ที่รายล้อมไปด้วยทุ่งนาพร้อมสะพานไม้ทอดยาวให้ออกไปเดินชิลล์รับลมพร้อมได้ถ่ายรูปสวยๆ ไปอัพลงโซเชียลแบบรัวๆ นอกจากนี้ยังมีกังหันน้ำไม้ไผ่ที่หมุนต้อนรับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ภายในร้านมีมุมให้เลือกนั่งทั้งมุมนั่งห้อยขาเท้าจุ่มน้ำในนาข้าวสุดผ่อนคลาย อีกทั้งยังสามารถนั่งชมวิวดอยหลวงเชียงดาวได้อีกด้วย หากใครกำลังหาสถานที่พักผ่อนบรรยากาศสบายๆ ลองแวะมาชิลล์ที่ เจียงดารา

Location: บ้านทุ่งหลุก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 50170
Open-Close: เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.30 น.
Phone: 093 545 3541
Facebook: เจียงดารา-บ้านทุ่งหลุก

---

15.บ้านปายนา, นครปฐม
(BaanPaiNa)

บ้านปายนา คาเฟ่สไตล์ลอฟท์คันทรี่บรรยากาศกลางทุ่งนาสุดผ่อนคลายที่มีโซนให้เลือกนั่งทั้งในห้องแอร์เย็นฉ่ำ โซนซุ้มใกล้ชิดบรรยากาศท้องทุ่ง โซนเปลตาข่ายนั่งชิลล์ๆ บนธารน้ำ และโซนซุ้มริมบ่อน้ำสุดชิลล์ เป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะเดินทางมาพักผ่อนนั่งชมบรรยากาศสบายๆ ในช่วงวันหยุด ซึ่งเมนูอาหารของที่นี่มีทั้งเมนูกาแฟสุดเข้มข้นอย่าง ปายนา ซิกเนเจอร์ เป็นเมนูเด็ดของทางร้านที่ใครมาแล้วต้องสั่งไปลิ้มลองกัน นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้กลางทุ่งนาที่ทอดตัวยาวโดดเด่นอยู่กลางท้องทุ่งสีเขียวขจีให้สาวๆ แต่งตัวสวยไปเดินถ่ายรูปชิคๆ บนสะพานไปอวดเพื่อนได้สบายเลย

Location: 49 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 08.00 – 20.00 น. 
Phone: 089 666 6217 
Facebook: บ้านปายนา

---