tripgether.com

11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวธรรมชาติ ไปคลายร้อนเติมความสดชื่น

36,594 ครั้ง
17 มี.ค. 2566

ใครเคยถูกถามว่าระหว่างทะเลกับน้ำตกชอบอะไรมากกว่ากันบ้าง? และสำหรับสายน้ำตกชอบเดินป่าชมธรรชาติแบบเราๆ ไปดูเลยกับ 11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวธรรมชาติ ไปคลายร้อนเติมความสดชื่น บอกเลยว่าแต่ละสถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถไปเที่ยวได้สบายๆ ในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นทริปแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือหาที่พักแล้วจัดทริปแบบ 2 วัน 1 คืน ก็ดีไม่น้อย ไปดูกันเลยว่าทั้ง 11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้าง


11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวธรรมชาติ ไปคลายร้อนเติมความสดชื่น

11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวธรรมชาติ ไปคลายร้อนเติมความสดชื่น


1.น้ำตกผางามงอน, นครนายก

ถ้าพูดถึง น้ำตกผางามงอน หลายคนอาจไม่คุ้นหูแต่ถ้าบอกว่าเป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก จะต้องคุ้นเคยกันอย่างแน่นอน บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่สวยงามและยังโอบล้อมด้วยธรรมชาติแบบเต็มๆ เพราะอยู่กลางป่านั่นเอง ซึ่งการเดินทางมาที่นี่ต้องนั่งเรือจากเขื่อนขุนด่านปราการชล แล้วเดินเท้า ไต่ตามก้อนหินเล็กน้อยเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะพบกับความงามของน้ำตกผางามงอนแล้ว ถือว่าคุ้มค่าแก่การมาถึงมากๆ แต่บอกก่อนว่าเส้นทางนี้อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุเพราะเป็นเส้นทางที่ต้องปีนป่ายเล็กน้อย ใครชอบเที่ยวแบบธรรมชาติแวะไปเช็คอินเติมความสดชื่นในช่วงหน้าร้อนนี้กัน

  • Location: เขื่อนขุนด่านปราการชล ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก
  • Price: ราคาเหมาเรือ 1 – 7 คน 1,500 บาท และ 7 คนขึ้นไป 200 บาท/คน
  • Open-Close: บริการเหมาเรือเริ่มออกเที่ยวแรกตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. (คิวเรือออกทั้งวันไม่มีรอบ)

2.น้ำตกสาริกา, นครนายก

น้ำตกสาริกา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลสาริกา จังหวัดนครนายก เป็นที่เที่ยวธรรมชาติสุดฮิตใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติและสายน้ำเย็นๆ เพื่อเติมความสดชื่นในหน้าร้อนนี้กันแล้ว ซึ่งน้ำตกสาริกาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีสายน้ำไหลตกลงมาจากหน้าผาถึง 9 ชั้น และในแต่ละชั้นก็มีแอ่งน้ำให้ได้เล่นน้ำหรือแช่เท้าเย็นๆ กันด้วย ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวในช่วงวันหยุด เพราะสามารถซื้ออาหารมานั่งกิน นั่งปิกนิกแบบชิลล์ๆ ใต้ร่มเงาไม้กันได้ แต่ต้องรักษาความสะอาดกันด้วยนะ

  • Location: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
  • Fee: ค่าเข้าคนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท/คน, เด็ก 20 บาท/คน
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.

3.น้ำตกวังตะไคร้, นครนายก

น้ำตกวังตะไคร้ ตั้งอยู่ที่อุทยานวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก โอบล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่นานาชนิดที่บอกเลยว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวแสนสบายตา ซึ่งช่วงหน้าร้อนผู้คนนิยมไปแช่เท้าและเล่นน้ำเย็นๆ เติมความสดชื่นกันมากมาย ไม่ว่าจะมากันเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนก็สนุกสนานแน่นอน แถมที่นี่ยังสามารถมานั่งปิกนิกกินข้าว พักผ่อนริมลำธาร เดินป่าชมสวนพฤกษศาสตร์ หรือใครอยากนอนค้างคืนท่ามกลางธรรมชาติก็มีบ้านพักภายในอุทยานฯ เปิดให้เช็คอินกันด้วย

  • Location: ถ.นครนายก – นางรอง ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
  • Phone: 037 385 164, 081 989 0365
  • Fee: รถโดยสารทุกประเภท คันละ 150 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน) เกินคิดเพิ่มคนละ 10 บาท
    รถมอเตอร์ไซค์ จอดภายในอุทยานฯ ค่าเข้าคนละ 50 บาท // จอดด้านนอกอุทยานฯ นักท่องเที่ยวเดินเข้า ค่าเข้าคนละ 20 บาท
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
  • Facebook: อุทยานวังตะไคร้ นครนายก

4.น้ำตกเก้าโจน, ราชบุรี

น้ำตกเก้าโจน หรือเก้าชั้น ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี บอกเลยว่าใครเป็นสายที่ชอบดื่มด่ำธรรมชาติจะต้องตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอนเพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่มีน้ำไหลลงมาถึง 9 ชั้นตามชื่อ อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย และยังมีน้ำตลอดทั้งปีให้ได้สัมผัสทั้งธรรมชาติและเติมความสดชื่นในวันหยุดแบบสบายๆ ไม่ว่าจะมานั่งชิลล์ฟังเสียงน้ำไหล ปิกนิกใต้ร่มเงาไม้ หรือเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ ก็บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง แอบกระซิบว่าใครชอบเดินป่าลัดเลาะตามโขดหินแนะนำให้ไปชมความงามของน้ำตกกันที่ชั้น 6 และชั้น 9 รับรองว่าสวยคุ้มค่าในการเดินแน่นอน

  • Location: ม.7 บ้านห้วยผาก ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
  • Fee: ค่าเข้าชม 20 บาท/คน

5.น้ำตกแก่งหรุ, สระบุรี

พิกัดลับที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับ น้ำตกแก่งหรุ ที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่อยู่ก่อนทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย กับภาพอันสวยงามของสายน้ำธรรมชาติที่ไหลลงในแอ่งน้ำขนาดใหญ่สีเขียวมรกตน้ำใสมองเห็นตัวปลา บริเวณโดยรอบยังมีแคร่นั่งใต้ร่มเงาไม้ที่สามารถสั่งอาหารมานั่งกินอย่างชิลล์ๆ มองวิวน้ำตกอีกด้วย สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับไปสบายๆ หรือใครอยากค้างคืนก็สามารถติดต่อจุดกางเต็นท์หรือบ้านพักบริเวณน้ำตกได้เลย


6.น้ำตกเจ็ดคต, สระบุรี

น้ำตกเจ็ดคต อยู่ในโซนของศูนย์ศึกษาธรรมชาติเชิงนิเวศเจ็ดคต-โป้งก้อนเสา อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี บริเวณใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง ที่นี่เป็นจุดกางเต็นท์สุดฮิตที่ชาวแคมเปอร์มักมาเปลี่ยนบรรยากาศนอนชิลล์เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย ซึ่งที่น้ำตกเจ็ดคตแห่งนี้มีน้ำตกเล็กและใหญ่แบ่งเป็นเจ็ดคตเหนือ เจ็ดคตกลาง เจ็ดคตใต้ และเจ็ดคตใหญ่ สำหรับการเดินทางไปชมน้ำตกนั้นมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เลือกคือ เส้นทางแรกเป็นการเดินรอบเล็ก ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ไปที่น้ำตกเจ็ดคดเหนือโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  เส้นทางที่สองรอบกลาง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อไปชม 3 น้ำตก คือ เจ็ดคต เหนือ-กลาง-ใต้ ใช้เวลาเดินประมาณ 2.30 ชั่วโมง และเส้นทางสุดท้ายรอบใหญ่ ระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อไปยัง 4 น้ำตก คือเจ็ดคดเหนือ-กลาง-ใต้-ใหญ่ ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง ใครชอบเดินป่าชมธรรมชาติฟังเสียงน้ำไหลไปเที่ยวที่น้ำตกเจ็ดคตรับรองต้องชอบแน่นอน


7.น้ำตกเจ็ดสาวน้อย, สระบุรี

นํ้าตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ชื่อดังที่หลายคนมักมาเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนกันนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรี แน่นอนว่าที่นี่มีทั้งหมด 7 ชั้นตามชื่อนํ้าตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งเป็นน้ำตกเล็กๆ ไม่สูงแต่มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ให้โดดน้ำเล่นกันได้อย่างสนุกสนานแถมยังมีน้ำตลอดทั้งปีอีกด้วย ใครหาที่เที่ยวช่วงหน้าร้อนเพื่อไปเติมความสดชื่นบอกเลยว่าที่นี่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เหมาะกับการมาพักผ่อนในวันหยุดเป็นที่สุด ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงหน่อยเท่านั้น


8.น้ำตกเอราวัณ, กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกสวยและน้ำใสที่บอกเลยว่าต้องมาชมความงามกันสักครั้ง เพราะที่นี่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ น้ำตกเอราวัณแบ่งออกเป็น 7 ชั้น ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมผืนป่าน้ำตก และความสมบูรณ์ของธรรมชาติแบบเต็มๆ ซึ่งแต่ละชั้นมีความงดงามแตกต่างกันและยังมีชื่อตามชั้นต่างๆ คือชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง, ชั้นที่ 2 วังมัจฉา, ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก, ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ, ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง, ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา และชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ แอบกระซิบว่าสำหรับใครที่อยากเก็บความงามให้ครบทั้ง 7 ชั้น จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ต้องเผื่อเวลากันดีๆ ด้วย สำหรับหน้าร้อนใครอยากเติมความสดชื่นเล่นน้ำเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติ รับรองว่าน้ำตกเอราวัณเป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การมาเช็คอินแน่นอน

  • Location: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ม.4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
  • Fee: ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 60 บาท/คน, เด็ก 30 บาท/คน
  • Open-Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00 – 16.00 น.

9.น้ำตกเหวสุวัต, นครราชสีมา

น้ำตกเหวสุวัต ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่แนะนำให้มาเที่ยวชมความงามกันสักครั้ง เพราะความอลังการและสวยงามจากธรรมชาติของน้ำที่ตกจากหน้าผาสูง 20 เมตร ลงมาในแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงเล่นน้ำเย็นได้สบายๆ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนหรือช่วงน้ำน้อยเพราะสามารถเดินเล่นตามโขดหินลัดเลาะไปยังใต้หน้าผาน้ำตกได้แต่ไม่แนะนำให้ลงเล่นในช่วงหน้าฝนเพราะน้ำเชี่ยวและอันตรายนั่นเอง มาเที่ยวเขาใหญ่ในทริปหน้าก็แวะมาเช็คอินชมความงามรับอากาศสดชื่นกันได้ที่น้ำตกเหวสุวัต

  • Location: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.จังหวัดนครราชสีมา
  • Fee: ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน, เด็ก 20 บาท/คน
  • Open-Close: เปิดบริการเวลา 07.00 – 21.00 น.

10.น้ำตกไทรโยคใหญ่, กาญจนบุรี

น้ำตกไทรโยคใหญ่ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ 8 เมตร ที่ตกลงสู่แม่น้ำแควน้อย สามารถเดินทางมาชมความงามได้ทั้งจากอุทยานแห่งชาติไทรโยค หรือล่องเรือล่องแพผ่านทางแม่น้ำแควน้อย ซึ่งบริเวณใกล้เคียงน้ำตกมีทั้งแพที่พัก แพร้านอาหาร เรียงรายอยู่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณอุทยานฯ นอกจากน้ำตกแล้วยังมีที่เที่ยวธรรมชาติอย่างพุต้นน้ำ จุดชมวิวสะพานแขวน เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และถ้ำดาวดึงส์ให้เดินชิลล์ๆ ชมความงามของธรรมชาติกันอีกด้วย ใครแพลนเที่ยวกาญจนบุรีนอนแพริมน้ำในหน้าร้อนนี้ก็สามารถแวะมาเช็คอินกันได้

  • Location: ม.7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
  • Fee: ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 60 บาท/คน, เด็ก 30 บาท/คน
  • Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

11.น้ำตกไทรโยคน้อย, กาญจนบุรี

น้ำตกไทรโยคน้อย ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องง้อรถส่วนตัวเพียงแค่ขึ้นรถไฟสายธนบุรี – น้ำตก แล้วต่อรถสองแถวมาเล็กน้อยก็ถึงจุดหมายแล้ว ซึ่งน้ำตกไทรโยคน้อยแห่งนี้เป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปีและยังเป็นน้ำตกที่เดินง่ายไม่ลำบากก็พบกับจุดเล่นน้ำแล้ว ที่นี่จึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพาเด็กๆ มาเล่นน้ำเย็นๆ เพื่อคลายร้อนกันในช่วงวันหยุด อีกทั้งยังมีบริเวณทางเข้ายังมี หัวรถจักรไอน้ำ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จัดแสดงอยู่เพื่อรำลึกถึงการสร้างเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-เมียนมาในสมัยสงครามอีกด้วย ใครมาเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยคน้อยก็สามารถแวะมาถ่ายรูปคู่เช็คอินกับหัวรถจักรไอน้ำกันได้

  • Location: อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
  • Fee: ไม่มีค่าเข้า
  • Open-Close: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 7.30 – 16.00 น.

ครบแล้วทั้ง 11 น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่เที่ยวธรรมชาติ ไปคลายร้อนเติมความสดชื่น รับรองว่าคนมีวันหยุดน้อยเที่ยวได้สบายๆ สำหรับคนชอบเที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ไปดูกันต่อเลยใน 7 ที่เที่ยววิวภูเขาใกล้กรุงเทพฯ เสพธรรมชาติแบบไปเช้า – เย็นกลับ แต่ถ้ามองหาที่พักใกล้กรุงเทพฯ เพื่อเปลี่ยนที่นอนไปดูกันเลยที่ 5 ที่พักใกล้กรุงเทพฯ น่าไป Staycation นอนชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติ มีที่เที่ยวที่พักแล้วไปดูที่กินใกล้กรุงเทพฯ กันบ้างกับ 10 ร้านอาหารริมน้ำใกล้กรุงเทพฯ รสเด็ด ฟีลดี ที่น่าไปลอง


ผู้เขียน

Newnews
Stay strong the weekend is coming!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ