tripgether.com

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี สายธนบุรี – น้ำตก รีวิวการเดินทางของสายชิลล์

64,352 ครั้ง
20 ก.ย. 2565

เมื่อพูดถึงกาญจนบุรี แน่นอนเลยว่าหนึ่งสิ่งที่จะต้องนึกถึงนั่งก็คือรถไฟ เพราะการเดินทางโดยรถไฟไปกาญจนบุรีนั้น นอกจากจะเป็นการเดินทางที่สะดวกและง่ายแล้ว ยังเต็มไปด้วยความชิลล์ พร้อมกับความสนุก ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศสองข้างทางรถไฟ ในวันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะมารีวิวการนั่งรถไฟไปเที่ยวกาญจนบุรีกันกับ นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี สายธนบุรี – น้ำตก รีวิวการเดินทางของสายชิลล์ รับรองเลยว่าสนุกและเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบสบายๆ ได้!


นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี สายธนบุรี – น้ำตก รีวิวการเดินทางของสายชิลล์

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี


การเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรีในครั้งนี้เราใช้บริการรถไฟขบวนธรรมดา สายธนบุรี – น้ำตก ที่มีสถานีต้นทางคือสถานีธนบุรี โดยตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช แนะนำเลยว่าหากใครที่วางแผนการเดินทางที่จะนั่งรถไฟรอบเช้า อาจจะต้องเผื่อเวลาการเดินทางไว้สักหน่อย เพราะในช่วงเช้าการจราจรบริเวณสถานีรถไฟค่อนข้างหนาแน่นเลยล่ะ

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟธนบุรีแล้ว เราก็จะพบกับจุดจำหน่ายตั๋ว โดยจะมี 3 ช่องบริการ การซื้อตั๋วก็เรียกได้ว่าสะดวกและรวดเร็วมาก เพียงแค่แจ้งสถานีปลายทาง พร้อมกับแนบบัตรประชาชน (ถ้าซื้อหลายใบเผื่อผู้โดยสารท่านอื่นก็แนบบัตรประชาชนขเพียงใบเดียวเท่านั้น) ซึ่งเราได้ซื้อตั๋วโดยสารที่มีสถานีปลายทางคือ สะพานถ้ำกระแซ ราคาจะอยู่ที่ 35 บาท/คน เท่านั้น พอได้ตั๋วแล้วก็ไปนั่งรอรถไฟที่ชานชาลากันได้เลย หรือจะออกไปซื้ออาหาร เครื่องดื่มที่มีวางขายหลากหลายร้านด้านหน้าสถานีก็ได้

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

ทริปนี้เรานั่งรถไฟขบวนที่ 257 ซึ่งเป็นรถไฟขบวนแรก จะออกจากสถานีธนบุรี เวลา 07.45 น. และด้วยความที่เป็นรถไฟขบวนธรรมดา เราจึงไม่จำเป็นต้องสำรองที่นั่ง สามารถเลือกได้เองเมื่อขึ้นไปบนรถไฟแล้ว

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรอไม่นาน เสียงระฆังก็ดังขึ้น และนายสถานีก็ประกาศว่าขบวนรถไฟสายธนบุรี – น้ำตกได้มาถึงแล้ว บอกเลยว่ารถไฟมาตรงเวลามากๆ ใครที่จะเดินทางโดยรถไฟต้องมาถึงสถานีก่อนเวลารถออกหน่อยนะ สัก 10 – 15 นาทีกำลังดีเลย

 

 

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

เมื่อขึ้นไปบนรถแล้วก็จะมีที่นั่งให้เลือกมากมาย หรือถ้าตู้โดยสารตู้ไหนคนค่อนข้างเยอะ เราก็สามารถเดินหาที่นั่งในตู้โดยสารอื่นๆ ได้เรื่อยๆ จนกว่ารถไฟจะออกเลย ซึ่งทุกที่นั่งจะติดริมหน้าต่างทั้งหมด ชิลล์มากๆ

พอเลือกที่นั่งได้แล้ว ก็สามารถเอากระเป๋าหรือสัมภาระอื่นๆ ไว้บนชั้นวางของด้านบนที่นั่งได้เลย และเมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนออกจากสถานีก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตั๋วโดยสารของเรา โดยระยะเวลาในการเดินทางจากสถานีธนบุรีไปยังกาญจนบุรี จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ระหว่างสองข้างทางขบวนรถไฟก็จะผ่านทั้งชุมชน สวน และท้องทุ่งนา บรรยากาศดีมากๆ ยิ่งเป็นช่วงเช้าแบบนี้ด้วยล่ะก็ ได้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนสองฝั่งข้างทางด้วย

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งไปยาวๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวหิว เพราะทุกครั้งที่รถไฟจอดเทียบที่สถานีรายทางต่างๆ ก็จะมีพ่อค้า แม่ค้า นำของมาขายมากมาย โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหาร ขนม รวมทั้งเครื่องดื่ม และที่พิเศษมากๆ เลยก็คือขนมบางชนิดเป็นขนมพื้นบ้าน อย่างขนมหน่อไม้ ยอมรับเลยว่าเพิ่งเคยได้ยินและลองชิมเป็นครั้งแรก อร่อย หวานกำลังดี และหอมใบตองมากๆ ราคาก็เป็นมิตรสุดๆ ห่อละ 10 บาทเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังได้เมนูอาหารอื่นๆ มากินรองท้องอีกด้วย นี่แหละคือเสน่ห์ของการนั่งรถไฟ!

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งกินอาหาร มองวิวเพลินๆ ไม่นานเราก็เดินทางมาถึงสถานีกาญจบุรี รถไฟจะจอดที่สถานีนี้ราวๆ 10 นาทีซึ่งนานกว่าสถานีอื่นๆ เป็นเพราะสถานีกาญจนบุรีเป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นกันมากเพื่อผ่านไปยังสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว จุดแลนด์มาร์กสุดโด่งดังของกาญจนบุรีนั่นเอง

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

เมื่อขบวนรถไฟเดินทางมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ขบวนรถไฟก็จะหยุดรอให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนสะพานเข้าไปยืนตามจุดที่ได้จัดไว้ให้เพื่อรอถ่ายภาพขณะที่รถไฟเคลื่อนผ่านสะพาน ส่วนเราที่อยู่บนรถไฟก็บอกได้เลยว่า ภาพบรรยากาศดีมากๆ เพราะนอกจากจะได้เห็นตัวสะพานข้ามแม่น้ำแควที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ยังได้สัมผัสลมอ่อนๆ พร้อมกับภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำแควใหญ่อีกด้วย หรือจะถ่ายรูปเช็คอินเท่ๆ ริมหน้าต่างที่เห็นวิวด้านนอกก็ได้นะ แต่อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเล็กน้อย เพราะบางช่วงก็จะเป็นโครงเหล็กสูง

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรีมาแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สะพานถ้ำกระแซกันต่อ แน่นอนว่าสองฝั่งข้างทางก็จะมีจุดที่เป็นไฮไลท์มากมาย อย่างช่องเขาที่มีการขุดเจาะแบ่งครึ่งนี้ เนื่องจากเส้นทางตั้งแต่สถานีชุมทางหนองปลาดุก ผ่านสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว และสถานีสะพานถ้ำกระแซ เป็นช่วงเส้นทางที่รู้จักกันในนามเส้นทางรถไฟสายมรณะนั่นเอง โดยการก่อสร้างเกิดการแรงงานเชลยที่ต้องเร่งสร้างทางรถไฟแข่งกับเวลา และมีความยากลำบาก รวมทั้งบางช่วงก็เป็นเหว และเขาอย่างที่เราเห็น จึงทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นไม่น้อย จึงเป็นที่มาของชื่อเส้นทางรถไฟช่วงนี้นั่นเอง

ในที่สุด เราก็เดินทางมาถึงถ้ำกระแซ ก่อนที่ขบวนรถไฟจะเคลื่อนผ่านสะพานถ้ำกระแซ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายถึงขั้นตอนความปลอดภัยขณะที่รถไฟเคลื่อนบนสะพาน พร้อมทั้งอยู่ประจำจุดเพื่อดูแล รักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารอีกด้วย ใครที่เป็นสายคอนเท็รต์ก็เตรียมกล้องได้เลย เพราะภาพบรรยากาศที่เรากำลังจะเห็นต่อจากนี้ สวยมากๆ !

ช่วงสะพานถ้ำกระแซนั้นจะเป็นรางรถไฟที่ตั้งอยู่บนสะพานขนาบไปกับแนวผา และมีแม่น้ำแควน้อยไหลอยู่เบื้องล่าง ซึ่งจุดนี้เป็นไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายธนบุรี – น้ำตก ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมารอชมขบวนรถไฟเคลื่อนมายังสะพานแห่งนี้ และบางกลุ่มก็นั่งมาลงที่สถานีนี้เพื่อเที่ยวชมสถานที่อันซีน ถ่ายรูปเซลฟี่กับสะพาน ก่อนที่จะขึ้นรถไฟกลับ

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี

การเดินทางมากาญจนบุรีครั้งนี้ เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ แต่เต็มไปด้วยความสงบ สบาย รวมทั้งบรรยากาศสุดผ่อนคลาย อีกทั้งยังได้ผ่านสถานที่ในตำนานมากมาย เอาเป็นว่าใครที่กำลังมีแพลนจะออกไปเที่ยวแบบไม่จำเจ และไม่ต้องขับรถเอง ก็ลองมานั่งรถไฟไปกาญจนบุรีกันดูนะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี


เป็นอย่างไรกันบ้างกับนั่งรถไฟไปกาญจนบุรี สายธนบุรี – น้ำตก รีวิวการเดินทางของสายชิลล์ บอกเลยว่านอกจากจะนั่งสบายแล้ว ยังได้ดูวิวข้างทาง แถมยังผ่านจุดเช็คอินของกาญจนบุรีอีกด้วยนะ และถ้าใครสนใจการเที่ยวแบบนั่งรถไฟละก็ เรามีนั่งรถไฟตู้นอนไปเชียงใหม่ ด้วยรถไฟด่วนพิเศษ CNR รีวิวการจองแบบละเอียด! มาแนะนำกันด้วย


ผู้เขียน
ช่างภาพ

ปู่บอกให้ออกเดิน
i need a story with a happy ending

Kaimook
ทุกการเดินทางจะทำให้เราเติบโต ทุกข้อผิดพลาดจะทำให้เราเรียนรู้ ภาพทุกใบจะทำให้จดจำทุกช่วงเวลา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ