tripgether.com

นครนายก 2 วัน 1 คืน ตะลุยเช็คอินกินเที่ยว เสาร์-อาทิตย์ก็เพลินได้ไม่ต้องง้อวันหยุดยาว

123,968 ครั้ง
26 ส.ค. 2562

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ที่รอคอยมาถึงแล้ว หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาในตลอดห้าวันเต็ม มันคงได้เวลาอันเหมาะสมที่จะให้รางวัลตัวเองด้วยการออกเดินทางไปสัมผัสกับธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้แวะจุดเช็คอินเท่ๆ ได้รูปสวยไว้อัพลงโซเชียล แถมได้กินอิ่มนอนอุ่นในบรรยากาศสุดร่มรื่นริมธารน้ำ เพื่อปลุกปลอบใจในความเมื่อยล้าให้ตื่นตัวพร้อมจะกลับไปฝ่าฟันอุปสรรคและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และทริปนี้เราจะไปพักผ่อนกันที่เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ นครนายก เดินทางเพียงชั่วโมงนิดๆ ก็นำพาเรามาถึงสถานที่ที่เราจะมาพักผ่อนสบายอุราได้โดยไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล


DAY 1 | กรุงเทพฯ – นครนายก

เราเริ่มเดินทางโดยรถส่วนตัวในช่วงบ่ายวันเสาร์จากกรุงเทพฯ ขับรถมาตามเส้นทางถนนรังสิต-นครนายก ระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาแวะวัดจุฬาภรณ์วนาราม สถานที่แรกของวันนี้ 

Map-Bkk-Nakornayok

วัดจุฬาภรณ์วนาราม ตั้งอยู่ที่อ.บ้านนา จ.นครนายก หากขับรถผ่านวิหารแดงมาประมาณ 10 กิโลเมตร จะเจอปั๊ม PT ให้กลับรถแล้วขับเข้ามาอีกหน่อยจะเจอกับป้ายเขียนชื่อวัดอยู่ (สามารถเดินทางตามเส้นทางใน Google Map ได้) เกือบเลยซอยแหนะ ทางเข้าเล็กมาก ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใครได้มาเยือนนครนายกแล้วต้องแวะเข้ามาเช็คอินกันก่อนเป็นที่แรก

Watchuraporn-11

วัดแห่งนี้เกิดขึ้นโดยหลวงปู่พระสุธรรมาธิบดี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารอยากจะสร้างเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีทรงพระชนมายุ 50 พรรษา โดยเริ่มสร้างเมื่อปี 2550 เป็นเวลา 12 ปี แรกเริ่มพื้นที่แห่งนี้เป็นป่า พอเริ่มสร้างวัดจึงได้เริ่มปลูกต้นไผ่จากแต่ก่อนมีประมาณ 6-7 กอ แต่ชาวบ้านเข้ามาช่วยกันปลูกเพิ่มจึงเกิดเป็นทางเดินอุโมงค์ไผ่ยาวราวๆ 200 เมตร 

Watchuraporn-9

Watchuraporn-9

Watchuraporn-9

เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณวัดรู้สึกเงียบสงบ ร่มรื่นและตื่นตาตื่นใจกับความเขียวขจีของอุโมงค์ไผ่มาก มีคนแวะเวียนเข้ามากราบไหว้พระปรางค์มารวิชัยและถ่ายรูปกับอุโมงค์ไผ่เป็นจำนวนมาก

Watchuraporn-9

Watchuraporn-9

หลังจากที่เราถ่ายรูปกันมาสักพักก็เริ่มจะหิวแล้ว จึงพากันไปแวะอีกหนึ่งจุดเช็คอินเด็ดของนครนายก เอเดน ฟาร์ม 

Adenfarm-70

เอเดนฟาร์ม (Aden Farm) กรีนมาร์เก็ตใกล้กรุงเทพฯ บนพื้นที่ 12 ไร่ ที่มีทั้งศูนย์จัดจำหน่ายเซรั่มอาช่าสเนล ศูนย์ฝึกการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ร้านสินค้าธรรมชาติปลอดสารเคมี และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดเริ่มต้นของที่นี่เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มเอเดน ออแกนิค ที่มีความสนใจเรื่องหอยทากจึงได้เปิดฟาร์มเลี้ยงและเพาะพันธุ์ และยังแนะนำให้คนในชุมชนเข้ามาทำเป็นอาชีพเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีงานทำอีกด้วย เอเดน ฟาร์ม เปิดบริการเวลา 09.00 – 19.00 น. โทร.081 375 0342, 081 306 4172

Adenfarm-70

Adenfarm-70

เมื่อขับรถเข้ามาจอดก็ต้องสะดุดตากับร่มสีสันสดใสที่ตกแต่งไว้หน้าทางเข้า กับหอยทากยักษ์เสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่

Adenfarm-70

Adenfarm-70

Adenfarm-4

ภายในเอเดนฟาร์มนั้นมีร้านอาหารหลากหลายให้บริการ โดยเมนูซิกเนเจอร์ที่ใครมาที่นี่ก็ต้องสั่ง สลัดปลาอวบอั๋น ปลาทอดเสิร์ฟพร้อมผักสลัดออแกนิค อิ่มสุขภาพดีในราคา 150 บาท

Adenfarm-70

Adenfarm-70

ต่อกันด้วย ขนมจีนน้ำยาปลา ของที่นี่โดดเด่นด้วยเนื้อปลาที่นำมาทำน้ำขนมจีนเป็นปลาแมคเคอเรล น้ำยาเข้มข้น กลมกล่อมมากๆ 70 บาท

Adenfarm-70

ปิดท้ายด้วยความพิเศษสุดๆ ของข้าวขาหมูคู่ใจไขมันต่ำ เนื้อนุ่ม หอมเครื่องเทศ 70 บาท

Adenfarm-70

มุมถ่ายรูปเพียบ!! ถูกใจคนชอบถ่ายรูปอย่างเราเลยค่ะ

Adenfarm-70

Adenfarm-70

Adenfarm-70

หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ขอเช็คอินเข้าที่พักเลยละกัน สำหรับคืนนี้เราเข้าพักกันที่รีสอร์ทสุดร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติกับ มะขามฟอร์เรส รีสอร์ท โดยขับรถจากเอเดนฟาร์มใช้เวลประมาณ 20 กว่านาที

Map-Aden-Makham

มะขามฟอร์เรส รีสอร์ท (Makham Forest Resort) รีสอร์ทบนเนื้อที่ 4 ไร่ติดริมลำธารวังตะไคร้ธารน้ำธรรมชาติจากต้นน้ำใหญ่ที่สุดน้ำตกวังตะไคร้ ที่ไหลมาบรรจบกับคลองมะเดื่อ มะขามฟอร์เรส รีสอร์ท โทร.095 164 1921, 086 138 5187

Makham-10

เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณรีสอร์ทจะเจอกับสนามหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่ โดยออกแบบให้อาคารห้องพักอยู่ล้อมรอบสนามหญ้า ทั้งยังมีศาลานั่งชิลล์ด้วย โดยแต่ละอาคารจะอยู่ในมุมต่างๆ แยกโซนกันอย่างชัดเจนให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ภายในตกแต่งในสไตล์ลอฟท์มาพร้อมห้องพักบรรยากาศดีเห็นวิวเขาใหญ่ได้แบบเต็มตา มีห้องพักทั้งหมด 4 แบบได้แก่ บ้านริมน้ำ, Modren Loft, Industry และ Family Room รวมทั้งหมด 25 ห้อง 

Makham-78

Makham-78

คืนนี้เราพักกันที่ห้อง Industry I8 ห้องพักตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลตัวอาคารเป็นปูนเปลือยขัดมัน 2 ชั้น ด้านหลังมองเห็นวิวเขื่อนขุนด่านปราการชล และจากห้องพักเดินไปเล่นน้ำที่ลำธารประมาณ 20 เมตร

Makham-78

ห้องพักมีให้เลือกทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ห้องพักขนาดกำลังดีมากับแฟน 2 คนสวีทกันสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักครบครันทั้ง เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น ทีวี และอินเตอร์เน็ตไร้สาย ห้องพักในวันธรรมดาราคา 1,200 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้า

Makham-78

Makham-78

Makham-78

เช้าๆ ตื่นมานั่งเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงหน้าห้องได้สบายๆ

Makham-78

Makham-78

ห้องนำ้ที่นี่ก็มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกสบาย เพราะเค้าแยกโซนเปียกและโซนแห้งให้แล้ว 

Makham-78

Makham-78

วันนี้ก็เที่ยวเช็คอินกันมา 2 ที่แล้ว ก็เพลียอยู่นะ แต่มาถึงที่นี่แล้วต้องไปนั่งชิงช้าเอาเท้าจุ่มน้ำที่ลำธารสักหน่อยเดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงมะขามฟอร์เรสรีสอร์ท ยังไงเราขอตัวไปเล่นน้ำกันก่อนน้า

Makham-78

Makham-78

แอบเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำของที่นี่มาฝากนิดหน่อย บอกเลยเงียบสงบมากๆ เที่ยวกันมาพอสมควรขอตัวไปนอนเก็บแรงไว้ตะลุยกินเที่ยวกันต่อในวันพรุ่งนี้นะ

Makham-78

Makham-78

Makham-78


DAY 2 | นครนายก – กรุงเทพฯ

Makham-78

ตื่นมาเช้านี้อากาศดีมาก ขอบอก!! เลยแอบแวบมานั่งแช่ในน้ำในสระว่ายน้ำสักหน่อย ก็ได้เวลาอาหารเช้าพอดี โดยต้องมาทานกันที่ห้องอาหารซึ่งก็อยู่ติดกับสระว่ายน้ำนี่แหละค่ะ อาหารเช้าที่นี่เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกรับประทานทั้งแบบข้าวต้มและ American Breakfast

Makham-78

เช้านี้เรากินข้าวต้ม ขนมปังทาเนยฉ่ำๆ ไข่ดาวเยิ้มๆ สลัดผัก ไส้กรอก แฮม และผลไม้สด และเครื่องดื่มของที่นี่เค้าก็มีหลากหลายทั้ง กาแฟร้อน ชาร้อน น้ำเปล่า น้ำมะตูม และน้ำส้ม

Makham-78

Makham-78

เติมพลังยามเช้าพร้อมเก็บของเช็คเอาท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาออกเดินทางไปตะลุยจุดเช็คอินต่างๆ ในนครนายกกันแล้ว ที่แรกในช่วงสายๆ ของวันเราจะไปเดินเขาเท่ๆ แชะภาพสวยๆ กันที่ เขาหล่นผจญภัย 

Khaolon-23

เขาหล่นผจญภัย ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก สถานที่ถ่ายทำมิวสิควิดีโอสวยๆ กับทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง แต่เนื่องจากช่วงนี้ที่เรามาเที่ยวเป็นฤดูฝนหญ้าเลยเขียวๆ หน่อย 

Khaolon-23

เลี้ยวเข้าซอยจากถนนใหญ่ขับเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอกับจุดปีนหน้าผาโรยตัว และจิ้งจอกเวหา เราสามารถจอดรถที่นี่ได้เลย มองมาทางซ้ายมือเราจะเป็นสะพานเขาหล่น เป็นสะพานไม้ไผ่ใช้ไม้ไผ่ถึง 2,500 ลำ จะลัดเลาะไปตามแนวภูเขา ตรงจุดนี้ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมเลยทีเดียว เราขอแวะถ่ายรูปสักหน่อยน้า

Khaolon-23

Khaolon-23

Khaolon-23

ช่วงหน้าฝนก็จะเขียวชอุ่ม สวยไปอีกแบบ

Khaolon-23

เดินไปจนสุดสะพานเราก็จะเดินไต่เขาขึ้นไปอีกหน่อย ก็จะพบกับวิวมุมสูงของจังหวัดนครนายกได้แบบสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว

Khaolon-23

Khaolon-23

Khaolon-23

เดินเล่นไต่เขาถ่ายรูปกันมาสักพักแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เราจะไปกินข้าวและเช็คอินกันที่ กลางนาคาเฟ่ 

Klangna-59

Klangna-59

กลางนาคาเฟ่ อยู่ใกล้ๆ กับตลาดเท่งวินเทจ เป็นคาเฟ่บนพื้นที่ 4 ไร่ ตกแต่งฝนสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ผสมผสานความเป็นท้องถิ่น มีโซนให้เลือกนั่งหลากหลาย ทั้งโซนห้องกาแฟ โซนห้องกระจกแอร์เย็นฉ่ำ โซนดาดฟ้าเห็นวิวมุมสูงของนาสีเขียวชอุ่ม โซนระเบียงเห็นวิวทุ่งนาแบบพาโนรามา และโซนซุ้มกลางนา ทุ่งนาภายในบริเวณร้านของที่นี่จะเขียวตลอดทั้งปี กลางนา คาเฟ่ เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี – วันอังคาร (หยุดทุกวันพุธยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.30 – 18.00 น. โทร.081 577 7663

Klangna-59

Klangna-59

Klangna-59

Klangna-59

ในส่วนขอบ่อน้ำนั้นสามารถให้อาหารปลาได้ ค่าอาหารถุงละ 10 บาท

Klangna-59

อาหารที่เราสั่งมากินกันวันนี้เป็นเมนูเด็ดของร้านเลยก็ว่าได้ ข้าวกระเพรากลางนา รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมหอมกระเพรา 65 บาท

Klangna-59

ต่อด้วยพิซซ่าทอด ชีสยืดๆ มีหลากหลายไส้ให้เลือกทั้ง ดับเบิ้ลชีส โบโลน่าสไปร์สซี่ชีส และอีกมากมาย ชิ้นละ 35 บาท

Klangna-59

Klangna-59

จับคู่มากับกาแฟกลางนา เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน กาแฟหอม เข้ม กลมกล่อมดีทีเดียว แก้วละ 50 บาท

Klangna-59

กินอิ่มกันแล้วไปเดินเล่นถ่ายรูปกันอีกสักหน่อย เพราะที่นี่มุมถ่ายรูปเค้ามีเพียบ ทั้งเปลตาข่าย สะพานเพิ่มความร่ำรวย และสะพานข้ามน้ำ บรรยากาศดีมากๆ เราเดินถ่ายรูปกันจนเพลิน แต่ก็ยังอยากไปอีกสถานที่หนึ่งที่เขาว่า มานครนายกก็ต้องมาแวะถ่ายรูปและเช็คอินเก๋ๆ สูดโอโซนดีๆ กันที่ สะพานทุ่งนามุ้ย

Klangna-59

Klangna-59

Klangna-59

Klangna-59

สะพานทุ่งนามุ้ย ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก สะพานไม้ไผ่ทอดยาวเป็นรูปตัวเอส พาดผ่านท้องนาของลุงอ๊อด เจ้าของไร่ ความยาวประมาณ 150 เมตร บนพื้นที่ 18 ไร่ ใช้ทำนา 15 ไร่ อีก 3 ไร่เป็นผืนป่า บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทุ่งนาสีเขียวชอุ่มสวยงาม และทิวทัศน์เขาหล่นไปจนถึงเขาใหญ่ สะพานทุ่งนามุ้ย ร้านกาแฟเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น., สะพานทุ่งนามุ้ยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. โทร.094 493 4321

Tungnamui-2

มาถึงกันแล้ว ต้องหยอดค่าบำรุงซ่อมแซมสะพานทุ่งนามุ้ย คนละ 10 บาท เป็นค่าไม้ไผ่ที่ใ้ชทำสะพานนั้นเองค่ะ

Tungnamui-2

Tungnamui-2

นาข้าวของที่นี่เป็นนาข้าวอินทรีย์ที่ลุงอ๊อดและชาวบ้านช่วยกันปลูก นอกจากนั้นลุงอ๊อดยังปลูกพืชผักสวนครัว และทำบ่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรอีกด้วย แถมยังมีพืชผักสวนครัวและข้าวไรซ์เบอร์รี่จำหน่ายให้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

Tungnamui-2

Tungnamui-2

Tungnamui-2

มีน้องแมวด้วย น้องซนมากจ้า

Tungnamui-2

Tungnamui-2

ถ่ายรูปกันจนหน่ำใจแล้ว อยากจะไปล่องเรือชมเขื่อนกันที่เขื่อนขุนด่านปราการชลสักหน่อย และอยากจะไปเดินป่าค้นหาความลับของธรรมชาติว่าจะสวยงามขนาดไหน ลุยกันเลยย!!

Khundan-14

เขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก เป็นเขื่อนคอนกรีตที่หญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร อุปโภค บริโภค แก้ปัญหาดินเปรี้ยว ป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ผลักดันน้ำเค็มเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดิน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายกนั้นเองค่ะ 

Khundan-14

Khundan-14

ในช่วงที่เรามาเที่ยวระดับน้ำอยู่ที่ 30 เมตร พี่ๆ ที่นี่บอกว่าระดับน้ำปีนี้ต่ำมากกว่าทุกปีค่ะ โดยในระดับน้ำสูงสุดของที่นี่จะอยู่ที่ 95-100 เมตรเลยค่ะ สำหรับการล่องเรือที่นี่เค้าเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น.ค่ะ รอบของเรือจะมีเรื่อยๆ 1 ลำจะนั่งได้ประมาณ 15 คน ถ้าเหมาลำ 1-7 คน ราคาจะอยู่ที่ 1,500 บาท/ลำ ถ้ามากัน 8 คนขึ้นไปคิดค่าบริการคนละ 200 บาทค่ะ

Khundan-14

Khaochonglom-1

ที่แรกที่เรือจะไปจอดให้เราคือ จุดเดินป่าน้ำตกช่องลมค่ะ ล่องเรือจากฝั่งมาถึงจุดนี้ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่ะ ตอนนี้เราก็มาถึงจุดแรกกันแล้ว ลุยโลด!!

Khaochonglom-1

เป็นสถานที่ที่บรรยากาศดีไม่แพ้ที่อื่นเลยจริงๆ มองไปทางไหนก็เป็นป่าเขาสีเขียวชอุ่ม สบายตาสุดๆ การเดินทางจากจุดจอดเรือเข้าไปถึงน้ำตกช่องลมใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที ค่ะ

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

ขอแวะนั่งพักล้างไม้ล้างมือซะหน่อย น้ำเย็นสบายมากจ้า

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

เดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดที่จะต้องไต่เชือกไปตามแนวเขา ผจญภัยสุดๆ ทริปนี้

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

ไต่เชือกมาได้ เราก็เดินต่อกันมาเรื่อยๆ จะเจอกับสะพานไม้ไผ่ทางข้ามโขดหินไปยังน้ำตกช่องลม

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

ข้ามสะพานมาได้ก็จะเจอกับน้ำตกช่องลม บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย เหนื่อยแต่คุ้มค่ะ ต้องมาให้ได้สักครั้ง

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

ก่อนจะกลับไปที่เรือขอแวะเก็กท่าถ่ายรูปเท่ๆ กับโขดหิน หุบเขา และป่าเขียวชอุ่มเก็บไว้เป็นความทรงจำสักหน่อยค่ะ

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

ไปต่อกันที่จุดที่ 2 เขาเรียกว่า “ต้นน้ำ” เป็นทุ่งดอกหญ้าสีเหลืองๆ เขียวๆ เดินเล่นถ่ายรูปที่นี่ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ค่ะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนกันค่ะ รับรองกลับไปนี่มีรูปไว้อัพลง IG เพียบเลย

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

Khaochonglom-1

เดินเที่ยวเพลินๆ เริ่มจะร้อนแล้วละค่ะ เราเลยพากันไปเล่นน้ำตกกันที่ อุทยานวังตะไคร้ 

Wangtakraiwaterfall-10

อุทยานวังตะไคร้ เป็นอุทยานทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกวังตะไคร้และบ้านพัก ร้านอาหารกระจายตัวอยู่ทั่วอุทยานเลยแหละ โดยกิจกรรมและที่ท่องเที่ยวในอุทยานก็มีหลากหลาย ทั้งล่องแก่งห่วงยาง ล่องแก่งแพยาง เหินฟ้าท้าสายน้ำ น้ำตกจำลอง สวนดอกไม้ “คุณท่าน” การเดินทางที่นี่ก็ไม่ยากค่ะ อยู่ไม่ไกลจากเขื่อนขุนด่านปราการชลค่ะ ใช้เวลาเพียง 7 นาที ก็ได้มาสัมผัสธรรมชาติกันแล้ว โดยค่าธรรมเนียมอุทยานวังตะไคร้นักท่องเที่ยวคนละ 10 บาท รถทุกประเภท คันละ 150 บาท (ผู้โดยสารเกิน 8 คน คิดเพิ่มคนละ 10 บาท) สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ต้องจอดไว้บริเวณด้านหน้าทางเข้า ชำระค่าจอดรถ 10 บาท และค่าผ่านประตูเข้าวังตะไคร้ คนละ 10 บาท

Wangtakraiwaterfall-10

Wangtakraiwaterfall-10

Wangtakraiwaterfall-10

ขอตัวไปนั่งจุ่มน้ำกันก่อนนะคะ 

Wangtakraiwaterfall-10

Wangtakraiwaterfall-10

เก็บภาพบรรยากาศสุดร่มรื่นมาฝากค่ะ บอกเลยถ้ามานครนายกต้องแวะเข้ามาถ่ายรูปเล่น นั่งแช่น้ำกันที่นี่นะคะ

Wangtakraiwaterfall-10

Wangtakraiwaterfall-10

ก่อนกลับกรุงเทพเราไม่พลาดที่จะแวะจิบน้ำเต้าหู้อุ่นๆ ที่โรงเต้าหู้ เพราะว่าน้ำเต้าหู้ร้านนี้เป็นร้านขึ้นชื่อของนครนายกเลยค่ะ เราเลยต้องแวะไปชิมความอร่อยกันซะหน่อย 

Tofucafe-15

ความพิเศษของโรงเต้าหู้ นครนายกคือ น้ำเต้าหู้เป็นสูตรของคนจีนแท้ๆ ที่สืบทอดกันมากว่า 70 ปีแล้วค่ะ โดยคุณแม่อัมพรเล่าว่า เมื่อก่อนขายเป็นรถเข็น แต่ลูกชายจบสถาปัตย์มาจึงอยากจะพัฒนาร้านน้ำเต้าหู้ให้แต่งต่างจากร้านแบบเดิมๆ จึงออกแบบร้านร่วมกับเพื่อนจนเกิดมาเป็น โรงเต้าหู้ในตลาดเก่านครนายกแห่งนี้ โรงเต้าหู้ เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น. และเวลา 17.00-20.00 น. (ร้านหยุกทุกวันจันทร์) (หมดไวเก็บไว) โทร.080 309 7369, 098 874 7515

Tofucafe-15

Tofucafe-19

ขนมปังสังขยาของที่นี่ก็เป็นสูตรของลูกสาวแม่อัมพรเป็นคนทำค่ะ อร่อยมากๆ แม่อัมพรบอกว่า น้ำเต้าหู้ ขนม และสังขยาของที่นี่ไม่ใส่สารกันเสียใดๆ ทำสดใหม่จากเตาทุกวันค่ะ 

Tofucafe-15

วันนี้เราสั่งน้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง หอมไม่หวานมาก เครื่องแน่นๆ ค่ะ 

Tofucafe-15

ต่อกันด้วยบัวลอยงาดำน้ำขิง บัวลอยนุ่มๆ ไส้งาดำแน่นมาก กินคู่กับน้ำขิงแล้วสดชื่นมากๆ ค่ะ

Tofucafe-15

ยังไม่หมดค่ะ ต้องชิม ปาท่องโก๋จับคู่มากับสังขยา ปาทองโก๋กรอบนอกนุ่มใน แถมสังขยาก็หวานหอม

Tofucafe-15

Tofucafe-15

ปิดท้ายด้วยเต้าทึง หวานเครื่องแน่นทั้ง เม็ดแปะก๊วย เนื้อลำไย วุ้น เฉาก๋วย และท็อปด้วยเม็ดแมงลัก

Tofucafe-15

อย่างที่บอกค่ะว่าเรามาให้รางวัลตัวเองด้วยการเน้นตะลุยเช็คอินกินเที่ยว เราเลยจัดเต็มไปด้วยร้านอร่อยเด็ด และตามล่าจุดเช็คอินท่ามกลางธรรมชาติของที่นี่ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์แบบนี้ก็สามารถพาแฟน หรือครอบครัวมาเที่ยวชิลล์ๆ กันได้ที่จังหวัดนครนายก เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ ที่คุณจะได้มาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดโอโซนดีๆ ให้เต็มปอด พร้อมพักผ่อนท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรแบบจัดเต็ม ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หากมีเวลาว่างลองหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันที่นี่ ปล่อยเวลาไปกับการนั่งเรือชมเขื่อน เดินเขาหล่น และยังได้รูปสวยๆ เพียบเลย รับรองเลยว่ามาแล้วเหมือนได้ชาร์จแบตให้เต็มร้อยพร้อมกลับไปลุยงานกันต่ออย่างแน่นอน

Tofucafe-15

Tofucafe-15


สรุปค่าใช้จ่ายทริปนครนายก 2 วัน 1 คืน
ค่าห้องพักที่มะขาม ฟอร์เรส รีสอร์ท 1 คืน 1,500 บาท (ราคาห้องพักอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง) (คนละ 750 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เอเดน ฟาร์ม 290 บาท (คนละ 145 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม กลางนาคาเฟ่ 150 บาท (คนละ 75 บาท)
ค่าเข้าสะพานทุ่งนามุ้ย 20 บาท (คนละ 10 บาท)
ค่าล่องเรือชมเขื่อนขุนด่านปราการชล 1,500 บาท (ราคานี้สามารถเดินทางได้ 1-7 คน/ลำ) (คนละ 750 บาท)
ค่ารถยนต์เข้าอุทยานวังตะไคร้ 150 บาท (ผู้โดยสารเกิน 8 คน คิดเพิ่มคนละ 10 บาท) (คนละ 75 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม โรงเต้าหู้ 85 บาท (คนละ 42.5 บาท)
รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้ คนละ 1,847.5 บาท (ราคาไม่รวมน้ำมันรถ)


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ