tripgether.com

3 ผู้นำสาวสุดแกร่ง อิง-อัง-จา กับวิธีการพาชาติพ้นวิกฤต

1,163 ครั้ง
3 เม.ย. 2563

ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเจอวิกฤตจากการระบาดของโควิด-19 ทุกประเทศต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของบรรดาผู้นำในแต่ละประเทศ ว่าจะมีวิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร และจะพาบ้านเมืองรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้ดีขนาดไหน วันนี้ทริปเก็ตเตอร์เลยอยากจะแชร์เรื่องราวของ 3 สาวผู้นำสุดแกร่งและเก่ง ที่สามารถนำพาชาติของพวกเขาให้rhoวิกฤตในครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AW_200403_0613


1.ไช่ อิง-เหวิน, ประธานาธิบดีไต้หวัน

การลงมือที่รวดเร็วและโปร่งใส คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ ไต้หวัน เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อน้อยมากทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กับจีน จำนวนผู้ติดเชื้อนับจนถึงปัจจุบันยังไม่ถึง 100 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับญี่ปุ่นหรือเกาหลี สิ่งที่ ไช่ อิง-เหวิน และรัฐบาลของเธอทำเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ เริ่มจากการตรวจสอบผู้โดยสารที่มาจากประเทศจีนอย่างละเอียด และสั่งให้ลดเที่ยวบินที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ช่วงแรกที่ได้ข่าวการระบาดของโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น และมีมาตราการกักตัวของบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่เสี่ยงอย่างเข้มงวด ต่อมาคือความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล โดยเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งหมดให้กับประชาชน ให้ทราบโดยทั่วกันอย่างมีสติ พร้อมทั้งดูแลและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

20190401125248-0fdb8f3c


2.อังเกลา แมร์เคิล, นายกรัฐมนตรีเยอรมนี

การเรียงลำดับความสำคัญและการสื่อสารเป็นวิธีที่ อังเกลา แมร์เคิล และทีมรัฐบาลของ เยอรมนี เลือกทำในการแก้ไข้ปัญหาในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ถึงแม้ตอนนี้เยอรมนีจะยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การจัดการต่างๆ ก็ถือว่าเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปด้วยกัน และยังได้รับคำชมจากคนทั่วโลกจากการที่เธอบอกกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและเตือนประชาชนด้วยตัวของเธอเอง ทำให้คนในประเทศตระหนักและรู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรในช่วงวิกฤตนี้ รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญในการทำงาน ที่เธอยกให้ภารกิจช่วยชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรกสุด รองลงมาคือการจัดการด้านเศรษฐกิจ ส่วนวาระอื่นๆ ให้เลื่อนออกไปก่อน

09-22-angela-merkel-speech


3.จาซินดา อาร์เดิร์น, นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์

มาตราการที่เข้มงวดและความเด็ดขาด เป็นสิ่งสำคัญที่ จาซินดา อาร์เดิร์น และรัฐบาล นิวซีแลนด์ ใช้ในการแก้ไขปัญหาโครวิด-19 หลังจากรัฐบาลได้ยกระดับการเตือนภัยโรคระบาดจากขั้น 2 สู่ขั้น 3 ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการระบาดของโรค จนปัจจุบันได้เข้าสู่ขั้น 4 อย่างเต็มตัวโดยการปิดประเทศ ให้ประชาชนทุกคนอยู๋แต่ในบ้าน ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องให้หยุดทำการทั้งหมดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน โดยอาร์เดิร์นชี้แจงว่า การตัดสินใจครั้งนี้คือการจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวนิวซีแลนด์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่มันคือโอกาสสำคัญที่จะช่วยชะลอการระบาดของโรคได้ เธอจะไม่ยอมให้ถึงขั้นวิกฤตแล้วค่อยมาคุมเข้ม ถึงแม้ว่าตอนนี้ยอดของผู้ติดเชื้อจะอยู่ที่ 102 รายและไม่มีผู้เสียชีวิตก็ตาม

5ac649f2-4193-11ea-9fd9-ecfbb38a9743_image_hires_152023


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ