tripgether.com

5 หมู่บ้านเล็กๆ น่าหนีไปพักผ่อน ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติ

14,046 ครั้ง
25 ธ.ค. 2562

อากาศเย็นสบายแบบนี้ น่าไปเที่ยวพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ไม่ว่าจะพาแฟน ชวนเพื่อน หรือพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนที่หมู่บ้านเหล่านี้ก็ต้องได้สัมผัสกับความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จึงคัดสรรหมู่บ้านเล็กๆ ที่น่าหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงไปพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติบำบัดเพื่อเติมพลังกายพลังใจให้เต็มเปี่ยมพร้อมกลับมาทำงานที่เรารักกันได้อย่างเต็มที่


1.หมู่บ้านรักไทย, แม่ฮ่องสอน
(RakThai Village)

หมู่บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่แห่งนี้เหมาะเป็นที่ปลูกชาพันธุ์ดี และปลูกพืชเมืองหนาว โดยทิวทัศน์ของที่นี่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา แมกไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และโค้งน้ำอันสวยงาม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตสำหรับมานอนดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ ของหมู่บ้าน และสามารถมาลิ้มลองของขึ้นชื่ออย่างชาร้อน ขาหมู และหมั่นโถวที่เลื่องลือกันมาอย่างยาวนาน สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายมานอนสบายๆ ที่นี่ก็มีที่พักสวยๆ บรรยากาศดีเพียบ แนะนำเลยว่าควรมาให้ได้สักครั้งในชีวิตนะ

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

การเดินทาง

แบบที่ 1 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางแม่ฮ่องสอน-ปาย (1095) ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปประมาณ 15 กม. จะเจอกับทางแยกซ้ายมือซึ่งมีป้ายบอกทางไปภูโคลนให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป (เส้นทางเดียวกับภูโคลน) ระยะทางจากปากทางถึงบ้านรักไทยประมาณ 29 กม. เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้วให้ขับตรงไปเรื่อยๆ โดยเส้นทางนี้จะผ่านภูโคลน น้ำตกผ่าเสื่อ พระตำหนักปางตอง ซึ่งทางขึ้นจะชันมีโค้งหักศอก โดยจะเลยบ้านรวมไทยไปอีก 7 กม. ก็ถึงบ้านรักไทย
แบบที่ 2 นั่งรถโดยสารประจำทาง สามารถนั่งจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ขึ้นรถสองแถวสายแม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย (แม่ออ) ท่ารถจะอยู่หลังตลาดสายหยุด (แม่ฮ่องสอน) รถจะมีวันละ 1 เที่ยว รถออกเวลา 13.00 น. ซึ่งจะจอดส่งกลางหมู่บ้าน หรือสามารถลงที่อ่างเก็บน้ำก็ได้ ค่าโดยสารประมาณ 70 บาท/คน ส่วนขากลับสามารถขึ้นรถได้ที่หน้าหมู่บ้าน หรืออ่างเก็บน้ำก็ได้ รถจะออกเวลา 07.00 น.

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 5 ที่พักหมู่บ้านรักไทยในอ้อมกอดขุนเขา ชวนสัมผัสหมอกขาว-อากาศหนาวตลอดทั้งปี 
อัพเดท 5 ที่พักบ้านรักไทย ดีไซน์สวย วิวปัง สัมผัสชีวิตแบบจีนยูนนานสวรรค์กลางหุบเขา 


2.หมู่บ้านแม่กำปอง, เชียงใหม่
(Maekumpong Village)

หมู่บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ที่ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่สามารถมาสัมผัสวิถีชีวิตสุดสโลว์ไลฟ์ของผู้คนในชุมชน ซึ่งหมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้ตั้งอยู่บนหุบเขาที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร ซึ่งก่อตั้งมาแล้วราวๆ 100 ปี โดยชื่อ “แม่กำปอง” มาจากในอดีตบริเวณหมู่บ้านมี ‘ดอกกำปอง : ดอกไม้ขนาดเล็กมีสีเหลืองแดง’ ขึ้นอยู่ใกล้ลำห้วย แล้วเมื่อนำมารวมกับคำว่า ‘แม่น้ำ’ จึงกลายมาเป็นคำว่า “บ้านแม่กำปอง” ซึ่งคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นคนเมืองที่อพยพมาจากอ.ดอยสะเก็ด เข้ามาทำสวนเมี่ยงและกาแฟ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยคือ การถ่ายภาพหน้าร้านลุงปุ๊ด&ป้าเป็ง ที่ใครได้มาเยือนแล้วต้องแวะมากดชัตเตอร์รัวๆ ตรงมุมนี้ นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟชมนกชมไม้ อีกหนึ่งร้านที่ต้องไปนั่งถ่ายรูปตรงระเบียงร้านที่จะได้แบล็คกราวเป็นมุมสูงของหมู่บ้านแม่กำปองนั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ยังมี น้ำตกแม่กำปอง วัดแม่กำปอง หรือวัดคันธาพฤกษา และอีกหลากหลายที่ให้แวะไปเช็คอินกัน

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

การเดินทาง

แบบที่ 1 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ขับได้ 2 เส้นทาง เส้นทางดอยสะเก็ดขับจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยใช้ถนนแก้วนวรัฐ ตรงไปยังถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด (118) จากนั้นเลี้ยวขวาที่ด่านตรวจบ้านโป่งดิน ขับเข้าสู่ถนน 30058 ให้สังเกตกรวยบนถนนบริเวณ 3 แยก ผ่านทางเข้าน้ำพุร้อนดอยสะเก็ดจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ต.ห้วยแก้ว จากนั้นขับตามทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ผ่านโครงการหลวงตีนตก ขึ้นมาถึงหมู่บ้านแล้วสามารถจอดรถได้ที่โรงเรียน หรือวัดคันธาพฤกษา 
เส้นทางสันกำแพง ขับมาตามเส้นทางสันกำแพงสายใหม่ (1317) จนมาถึงทางแยกห้วยแก้วให้เลี้ยวขวา ขับตามเส้นทางขึ้นเขามาเรื่อยๆ จนผ่านโครงการหลวงตีนตก ขึ้นมาถึงหมู่บ้านแล้วสามารถจอดรถได้ที่โรงเรียน หรือวัดคันธาพฤกษา 
แบบที่ 2 สามารถเหมารถแดง เช่ารถตู้แบบมีคนขับ แนะนำให้ตกลงราคาก่อน
แบบที่ 3 รถตู้สาย “เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง-แม่กำปอง” 
ขาไปขึ้นรถที่ ตลาดวโรรส (ตรงข้ามตลาดดอกไม้ ริมแม่น้ำปิง)-แม่กำปอง รอบเวลา 07.40, 09.30, 11.40, 14.30 (07.40, 11.40 เป็นรถตู้// 09.30, 14.30 เป็นรถแวน)
ขากลับขึ้นรถที่ศาลาตรงข้ามโรงเรียนแม่กำปอง รอบเวลา 09.20, 11.20, 13.20, 16.10 (รอบ 09.20, 13.20 เป็นรถตู้// 11.20, 16.10 เป็นรถแวน) ราคาค่าโดยสาร 150 บาท/ขา

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: บ้านแม่กำปอง 2 วัน 1 คืน กินดี อยู่สบาย เที่ยวคุ้ม ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ กับธรรมชาติเขียวๆ 
5 ร้านอร่อยแม่กำปอง มาถึงแล้วต้องมาลองอย่าให้เสียเที่ยว 


3.หมู่บ้านสะปัน, น่าน
(SaPun Village)

หมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านเนินๆ ที่เมืองน่าน ตั้งอยู่ที่อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เป็นชุมชนเล็กๆ มีความเงียบสงบเหมาะแก่การไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา ซึ่งมีลำน้ำว้าไหลผ่านยิ่งมาเที่ยวในช่วงหน้าฝนจะได้เห็นทิวทัศน์ของทุ่งนาข้าวสีเขียวขจีและสายหมอกฟุ้งยามเช้า อากาศที่นี่เย็นสบายเหมาะจะชวนแฟนมานอนสวีทในบรรยากาศสบายๆ ที่พักที่นี่เน้นการอยู่ร่วมกับวิถีชีวิตของชาวน่าน พร้อมทั้งยังสร้างที่พักให้คงความเป็นกลิ่นอายของชุมชนแบบดั้งเดิมทำให้เราได้สัมผัสชีวิตของคนที่นี่ได้เป็นอย่างดี ที่พักแต่ละที่ก็จะมีวิวที่แแตกต่างกันออกไปทั้งที่พักติดริมแม่น้ำ ที่พักบนเขาสูงเห็นวิวของทุ่งนาและโอบล้อมไปด้วยภูเขา และจุดชมวิวนาข้าวเป็นวิวที่สวยงามที่สุดของหมู่บ้านนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งพิกัดจะตั้งอยู่ใกล้กับสายหมอกบอกฮัก หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวช่วงฤดูฝนก็ไม่ควรพลาดไปชมวิวท้องนากับสายหมอกคลอเคลียที่นี่นะ

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

การเดินทาง

แบบที่ 1 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองน่านใช้เส้นทางสันติสุข บ่อเกลือ หรือเส้นทางปัว ดอยภูคา บ่อเกลือ จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสูทอำเภอบ่อเหลือด้วยระยะทาง 100 เมตร เมื่อเข้ามาถึงแล้วจะเจอสะพานข้ามคลองให้ขับข้ามสะพานมาจะเจอสามแยก จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปทางอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ขับตรงไปเรื่อยจะถึงหมู่บ้านสะปัน
แบบที่ 2 นั่งรถโดยสารจากตัวเมืองน่าน หรือจากกรุงเทพ สามารถนั่งมาลงได้ที่ตลาดปัว จากนั้นให้ต่อรถสองแถวสายปัว-บ่อเกลือ 
และสามารถเหมารถโดยสารปัว-สะปัน 1,000 บาท/เที่ยว บ่อเกลือ-สะปัน 1-4 คน เหมา 200 บาท/เที่ยว 5 คนขึ้นไป คนละ 50 บาท
ตารางเวลาเดินรถ ปัว-บ่อเกลือ
เวลา 07.30 น. และ 09.00 น. (อาจจะมี หรือไม่มีรอบขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร) ค่าโดยสาร 80 บาท/คน
ตารางเวลาเดินรถ บ่อเกลือ-ปัว
เวลา 09.00 น. ค่าโดยสาร 80 บาท/คน


4.หมู่บ้านอีต่อง-ปิล๊อก, กาญจนบุรี
(E-Tong Village)

หมู่บ้านอีต่องปิล๊อก ตั้งอยู่ที่อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน เพราะเราจะได้เชยชมกับหมอกฟุ้งๆ ตัดกับธรรมชาติของต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งหากใครได้มาเยือนที่แห่งนี้แล้วจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน แม้การเดินทางจะไม่ได้ชันมากแต่โค้งก็น่ากลัวอยู่เช่นกัน ซึ่งหากใครไม่ชำนาญเส้นทาง หรือขับรถไม่มีความคล่องตัวก็แนะนำว่า ให้นั่งรถสาธารณะไปจะปลอดภัยกว่า แต่หากค่อยๆ ขับไปก็พอได้ แต่ถนนก็จะลื่นบ้างด้วยอากาศในช่วงฤดูฝนนั่นเอง เพราะเราจะต้องขับขึ้นลงเขาและไม่มีปั๊มน้ำมันนะจ๊ะ เมื่อเข้าไปถึงยังบ้านอีต่องแล้วจุดถ่ายรูปฮอตฮิตของที่นี่ก็คือ บ่อน้ำในตัวหมู่บ้านและสะพานริมบ่อที่หลายคนมักจะนำป้ายไม้มาเขียนข้อความเพื่อแขวนไว้ตรงสะพานนั่นเอง ซึ่งป้ายไม้นี่ก็สามารถหาซื้อได้ตรงตลาด อดีตของหมู่บ้านอีต่องแห่งนี้เป็นเหมืองอันรุ่งเรืองซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-พม่า เราก็จะได้เห็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่ให้ได้สัมผัสกับความเงียบสงบที่เราไม่ค่อยเจอในเมืองหลวง ซึ่งใครชอบบรรยากาศสบายๆ ชุ่มฉ่ำแบบนี้ก็มาสัมผัสกันได้ในช่วงฤดูฝนนะจ๊ะ

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

การเดินทาง

แบบที่ 1 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากตลาดทองผาภูมิไปยังหมู่บ้านอีต่องด้วยระยะทาง 70 กม. พิชิตโค้ง 399 โค้ง ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนที่นี่เป็นถนนลาดยาง มีบางช่วงที่ผิวถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ แนะนำให้ออกเดินทางก่อนเวลา 15.00 น. และควรเติมน้ำมันไปให้เต็มถัง เพราะด้านบนมีแต่ปั๊มหลอดแก้ว
แบบที่ 2 สามารถขึ้นรถสองแถวสีเหลือง ที่ตลาดทองผาภูมิ-อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ-บ้านอีต่อง โดยขาขึ้นจะออกเดินทางเวลา 10.00-12.00 น. ขาลงจากบ้านอีต่องจะออกเดินทางเวลา 06.00-07.00 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 20 โฮมสเตย์บ้านอีต่อง ติดริมน้ำ ใกล้ถนนคนเดิน เช็คอินหมู่บ้านเหมืองเก่าสุดอันซีน กลางขุนเขาและสายหมอก 
ทริปบ้านอีต่อง ปิล๊อก 3 วัน 2 คืน ลุยเหมืองสมศักดิ์ แวะน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ชมวิวทะเลหมอกเนินช้างศึก


5.หมู่บ้านแม่แมะ, เชียงใหม่
(Mae Mae Village)

หมู่บ้านแม่แมะ ตั้งอยู่ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา พร้อมทั้งมีลำห้วยเล็กๆ ไหลผ่าน ที่แห่งนี้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก หากใครได้มีโอกาสมาพักผ่อนที่นี่ก็จะได้ชาร์จพลังอย่างเต็มที่ด้วยความเงียบสงบและมีธรรมชาติคอยบำบัดขัดเกลาจิตใจของเราให้สดใสอยู่เสมอ ที่บ้านแม่แมะแห่งนี้มีที่พักวิวดีที่เหมาะแก่การมานอนสัมผัสธรรมชาติ พร้อมใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีที่พักด้วยกันทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน ซึ่งบ้านแม่แมะแห่งนี้เหมาะจะมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนเช่นกัน เพราะจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายและได้เห็นต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม เหมือนได้มาหยุดเวลาเอาไว้กับความสุขเล็กๆ ในแบบที่เมืองหลวงยังไม่มี อีกทั้งยังสามารถแวะเที่ยวได้ทั้ง วัดถ้ำเชียงดาว และอีกหลากหลายที่น่าแวะไปเช็คอิน

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

MooBan_1

การเดินทาง

แบบที่ 1 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ขับจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-เชียงดาว ก่อนจะเข้าตัวเมืองเชียงดาวประมาณ 4-5 กม. จะมีป้ายบอกทางไปบ้านแม่แมะอยู่ทางซ้ายมือ ให้ขับต่อไปอีก 10 กม. ก็จะมาถึงบ้านแม่แมะ (มีป้ายบอกทางตลอด)
แบบที่ 2 สามารถนั่งรถโดยสารจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังอ.เชียงดาว ด้วยรถตู้และรถสองแถว สามารถบอกคนขับได้เลยว่าขอลงที่ปากทางบ้านแม่แมะ และแนะนำให้โทรนัดกับที่พักก่อนเพื่อความสะดวกและเป็นการนัดหมายกันก่อนเดินทาง

ทริปเก็ทเตอร์แนะนำ: 2 วัน 1 คืน หนีความวุ่นวาย ตามหาความสโลว์ไลฟ์ที่เชียงดาว 


ผู้เขียน

ampampaamp
นัก(หัด)เขียน ที่ฝันอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย เงียบสงบ กับธรรมชาติ ,ชื่นชอบเรื่องไลฟ์สไตล์ การแต่งบ้าน เบเกอรี่ พอๆ กับการท่องเที่ยว แต่มักใช้เวลาว่างหมดไปกับการนอนดูซีรีส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ