เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท จันทบุรี พื้นที่พักผ่อนสุดส่วนตัวในบรรยากาศโรแมนติกริมหาดคุ้งวิมาน
14,010 ครั้ง
6 มี.ค. 2563
14,010 ครั้ง
6 มี.ค. 2563
หนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมานอนพักผ่อนในพื้นที่แห่งความสุขริมทะเลกันสักคืนก็คงดีนะ ด้วยบรรยากาศรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสุดผ่อนคลายที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางภายใต้คอนเซ็ปต์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครในจันทบุรีแห่งนี้อย่างแน่นอน วันนี้ทริปเก็มเตอร์จึงอยากชวนมาพักผ่อนเสพความสุขกันที่ เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท (Peggy’s Cove Resort) เป็นที่พักแสนอบอุ่นเดินทางสะดวกตั้งอยู่ริมหาดคุ้งวิมานไม่ไกลจากกรุงเทพอีกด้วย
เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท (Peggy’s Cove Resort) พักผ่อนในพื้นที่สุดแสนเงียบสงบโดดเด่นด้วยประภาคารสีแดงริมหาดในบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงแห่งมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยสีสันที่สวยสะดุดตาพร้อมกลิ่นอายของหมู่บ้านชาวประมงแบบตะวันตก ในขณะเดียวกันยังสร้างความผ่อนคลายด้วยการใช้ทางเดินสะพานเชื่อมผ่านธารน้ำไหลไปยังห้องพักต่างๆ ในรีสอร์ทให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้เดินอยู่เหนือธารน้ำ ทั้งยังสามารถแวะถ่ายรูปได้ตลอดทางอีกด้วย
เมื่อเดินทางเข้ามาถึงบริเวณรีสอร์ทก็ได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองตั้งแต่ลงจากรถ จนเดินเข้ามาถึงอาคารล็อบบี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบสถ์ในหมู่บ้าน Peggy’s Cove ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งทางรีสอร์ทได้สร้างสรรค์ออกมาอย่างสวยงามและได้กลิ่นอายของหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้นจริงๆ
เมื่อเข้ามาถึงยังล็อบบี้และทำการเช็คอินแล้ว นั่งรอภายใต้ความอบอุ่นในห้องโถงสีฟ้าสุดสดใส สักพักก็มีรถกอล์ฟมารับเพื่อพาเราไปยังห้องพัก
ด้วยห้องพักหรูที่รองรับผู้เข้าพักได้ถึง 68 ห้อง เลือกพักได้ทั้งหมด 5 ไทป์คือ Superior Room, Deluxe Room, Deluxe Pool-Access, Deluxe Jacuzzi Villa และ Grand Deluxe Pool Villa โดยห้องพักแต่ละไทป์ตกแต่งภายในที่แตกต่างกันออกไปตามสัดส่วนการใช้งานที่จัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว
โดยห้องแรกที่เราจะพาไปชมความสวยงามคือ Deluxe Jacuzzi Villa ตัวบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้สุดร่มรื่น เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องก็ได้สัมผัสกับความสวยงามของห้องพักในโทนสีขาวสุดอบอุ่น ทั้งยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์คอทเทจผสมผสานกับกลิ่นอายของหมู่บ้านชาวประมงได้อย่างลงตัว
ภายในห้องพักขนาด 50 ตรม. มาพร้อมเตียงคิงไซส์หนานุ่ม ทั้งยังมีโซฟาเล็กอยู่ตรงมุมห้องให้สามารถนั่งเล่นชมวิวผ่านหน้าต่างได้อีกด้วย
สำหรับมุมโต๊ะทำงาน และมุมโต๊ะเครื่องแป้งที่มาพร้อมหลอดไฟ LED ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของสาวๆ ได้เป็นอย่างดีแน่นอน
และพลาดไม่ได้กับลำโพงขยายเสียงที่มีให้ใช้งานเฉพาะที่ Peggy’s Cove Resort เท่านั้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์กับคอนเซ็ปต์รักษ์โลกในยุคสมัยปัจจุบัน ทางรีสอร์ทจึงได้สร้างสรรค์ลำโพงขยายเสียงที่สามารถใช้โทรศัพท์วางบนช่องวางเพื่อขยายเสียงเพลงให้ดังขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ซึ่งลำโพงขยายเสียงตัวนี้จะมีให้บริการทุกห้องพักในรีสอร์ท และหากใครติดใจอยากได้กลับไปไว้ใช้ที่บ้านทางรีสอร์ทก็มีจำหน่ายในราคาเพียง 1,900 บาท สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ล็อบบี้ค่ะ
บริเวณระเบียงห้องพักก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นและผ่อนคลายสุดๆ
ในส่วนของห้องน้ำที่จัดเต็มด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางจัดสรรพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งไว้เป็นอย่างดี
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาแล้วต้องสะดุดตาด้วยอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปนอนแช่ได้ถึง 2 คน มาพร้อมกับวิวหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวสวยของพื้นที่สีเขียวในรีสอร์ทได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีหลังคาที่ติดกระจกใสให้สามารถนอนแช่น้ำไปมองดาวไปในยามค่ำคืนก็ยังได้
บรรยากาศแบบนี้ฟินสุดๆ ไปเลยจ้า (:
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Rainshower พร้อมระบบน้ำร้อนน้ำเย็นให้สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง ครีมอาบน้ำ แชมพู ผ้าขนหนู และครีมทาผิว
ภายในห้องพักยังมีมินิบาร์ ที่จัดเต็มทั้งเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว และชากาแฟ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ห้องถัดไปเป็นห้อง Deluxe Pool-Access ซึ่งเป็นห้องพักขนาด 45.6 ตรม. โดยห้องที่เราพามาชมนี้เป็นห้องพักแบบมีประตูเชื่อมถึงกันได้ด้วย ทำให้การมาพักผ่อนแบบเป็นครอบครัวใหญ่สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย
ภายในห้องจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์คอทเทจโทนสีขาวนวลสุดอบอุ่นพร้อมเตียงคิงไซส์นอนสบาย ทั้งยังมีโซฟาริมหน้าต่างให้นอนมองวิวสบายๆ อีกด้วย
มาพร้อมระเบียงห้องพักแบบส่วนตัวสามารถออกไปนั่งโซฟาชมวิวได้
และไฮไลท์ของห้องนี้ก็คือ สระว่ายน้ำสุดส่วนตัวที่สามารถเดินออกจากห้องแล้วลงน้ำได้ตลอดวัน ซึ่งเป็นสระขนาดเล็กสำหรับครอบครัว หรือคู่รักที่อยากมาพักผ่อนชิลล์ๆ แบบส่วนตัว
ภายในห้องน้ำกว้างขวางจัดสรรพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งได้อย่างลงตัว มาพร้อมอ่างอาบน้ำติดกระจกบานใหญ่นอนดูทีวีชิลล์ๆ ระหว่างแช่น้ำได้สบายและ Rainshower ที่สามารถปรับอุณภูมิได้ตามต้องการเช่นกัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งครีมอาบน้ำ แชมพู ผ้าขนหนู และครีมทาผิว
บรรยากาศชิลล์สุดๆ ไปเลยจ้า
ปิดท้ายด้วยห้อง Superior Room เป็นห้องพักโซนใหม่ที่เปิดให้บริการในเดือนมีนาคมนี้ ตั้งอยู่บนอาคารบริเวณด้านในของรีสอร์ท ห้องพักขนาดกำลังดีพักผ่อนสบายเหมาะกับคู่รักและครอบครัวที่อยากมาเที่ยวพักผ่อนสบายๆ ในบรรยากาศสุดโรแมนติก
ภายในห้องพักตกแต่งเรียบง่าย มาพร้อมเตียงนอนหนานุ่มขนาดควีนไซส์ และเตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต ตอบโจทย์คนมาพักผ่อนเป็นกลุ่มครอบครัวได้อย่างลงตัว
ทั้งยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์คอทเทจผสมผสานกับกลิ่นอายของหมู่บ้านชาวประมงได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องน้ำขนาดกำลังดีมาพร้อม Rainshower และระบบน้ำร้อนน้ำเย็น พร้อมสรรพด้วยครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมทาผิว ผ้าขนหนู และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มุมระเบียงหน้าห้องพักสามารถออกมายืนชมวิวสวยภายในรีสอร์ทได้สบาย
หลังจากที่เก็บของเข้าห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็พากันไปปั่นจักรยานเล่น เพื่อรอเวลาไปรับประทานอาหารเย็น เราพากันไปปั่นบริเวณเลียบถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ ทั้งยังสามารถปั่นไปเที่ยวชายหาดหินโคร่งและแวะถ่ายรูปได้ตลอดทางอีกด้วย โดยสามารถแจ้งที่ล็อบบี้เพื่อขอใช้บริการจักรยานได้ สามารถเช่าจักรยานได้ในราคา 100 บาท ปั่นได้ 3 ชั่วโมงค่ะ
และเราก็มาแวะกินไอศกรีมฟรีที่มีให้บริการที่ Bamboo Bar อยู่บริเวณข้างสระว่ายน้ำของรีสอร์ท โดยจะให้บริการตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น.
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทำเสื้อมัดย้อม ซึ่งหากใครที่อยากเรียนรู้วิธีการทำและอยากได้เสื้อลวดลายสวยไม่เหมือนใครกลับไปเป็นของฝากก็สามารถแจ้งที่ล็อบบี้ได้โดยตรง โดยมีค่าใช้จ่าย 450 บาท/คน ซึ่งจะมีการสอนวิธีการทำตั้งแต่การมัดลายผ้าโดยใช้เสื้อสีขาวผ้าคอตตอนแท้ และใช้สีครามจากธรรมชาติ
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์กับเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งยังได้เสื้อตัวโปรดที่มีเอกลักษณ์และลวดลายที่ไม่เหมือนใครติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย สามารถเริ่มทำกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 15.00-16.00 น.
เมื่อเลือกแบบที่เราชอบได้แล้วก็มัดเสื้อด้วยหนังยาง จากนั้นก็จุ่มลงในน้ำเกลือก่อนเพื่อให้สีติดทน บิดเสื้อจนแห้งแล้วจึงนำไปแช่ในน้ำสีครามธรรมชาติประมาณ 5 นาที หรือรอให้สีติดแล้วจึงนำขึ้นมาบิดจนหมาดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ซึ่งทางรีสอร์ทจะนำเสื้อที่เราทำไปตากให้แห้งและตอนเช้าวันที่เช็คเอ้าท์ก็สามารถมารับเสื้อได้ที่ล็อบบี้
ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและสอนวิธีการทำเสื้อมัดย้อมอย่างละเอียด แถมได้เสื้อสวยๆ กลับไปใส่แบบไม่เหมือนใครอีกด้วย
หลังจากที่ไปปั่นจักรยานกันมาแล้ว ท้องก็เริ่มร้องเราจึงมารับประทานอาหารเย็นกันที่ Light House Bar & Grill เป็นร้านอาหารนานาชาติของรีสอร์ท ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. แม้จะไม่ได้เข้าพักในรีสอร์ทก็สามารถเข้ามารับประทานอาหารได้เช่นกัน
ภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายแบบห้องกระจกโทนสีขาวนวลสบายตา มาพร้อมชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ากันได้ดีกับตัวร้าน มีชุดโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายมุมตามใจชอบ
วันนี้เราสั่งอาหารมาลิ้มลองกันทั้งหมด 4 เมนูด้วยกัน ซึ่งแต่ละจานเป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่มาเยือนถึง Light House Bar & Grill แล้วต้องสั่งมารับประทานให้ได้เลย
เริ่มกันที่ Pizza Seafood ราคา 350 บาท พิซซ่าแป้งบางกรอบเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ต้องบอกเลยว่าอร่อยสมคำร่ำรือจริงๆ
ต่อด้วย ยำแซลมอน ราคา 240 บาท รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวใส่ผลไม้อย่างแอปเปิ้ลเขียว มะม่วง และเครื่องยำอร่อยลงตัว
ตามมาด้วย สปาเก็ตตี้ครีมซอสกุ้ง ราคา 280 บาท เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องบอกว่าไม่ควรพลาด ด้วยเนื้อครีมละมุนเสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งตัวโตเนื้อฉ่ำ โรยไข่กุ้งแน่นๆ ดีต่อใจมาก
และสุดท้ายเป็น ชุดซีฟู้ดรวมเย็น (DUO) ราคา 790 บาท ที่เสิร์ฟซีฟู้ดแน่นๆ มาให้ทั้งกุ้ง ปลาหมึก แซลมอนซาซิมิ หอยแมลงภู่ ปลา และปูแบบจัดเต็ม พร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบอย่างน้ำจิ้วแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด และซอสญี่ปุ่นใส่วาซาบิ
กินคาวแล้วไม่กินหวานก็คงไม่ได้ เราจึงพากันมาลิ้มรสชาติความอร่อยกับเมนูของหวานที่ให้บริการอยู่ภายในร้าน Coffee Cove เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ตัวร้านโดดเด่นด้วยประภาคารสีแดง ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ข้างกันกับ Light House Bar & Grill
ภายในร้านมาในโทนสีฟ้าครามตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์คอทเทจโทนสีขาวตัดกันกับหมอนลายผ้ามัดย้อมเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศโดยรอบ
มาถึงที่นี่แล้วจะต้องสั่ง บิงซูยาคูลท์ปีโป้ ราคา 129 บาท ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมฟูๆ และปีโป้แน่นๆ เสิร์ฟคู่มากับซีเรียลคอร์นเฟลกส์ท็อปปิ้ง
ตามมาด้วย Midnight Brownie ราคา 129 บาท บราวนี่เนื้อหนึบหนับท็อปด้วยไอศกรีมวานิลลาและวิปปิ้งครีมราดช็อกโกแลตฉ่ำสุดๆ
และพลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่ม Three Musketeer (3 ทหารเสือ) ราคา 80 บาท เป็นเมนูที่เสิร์ฟความอร่อยของกาแฟ นม และชาเขียวแยกเลเยอร์กัน หอมหวานอร่อยลงตัวดีทีเดียว
กินอิ่มกันแล้ว ขอแวะมาเดินถ่ายรูปเล่นก่อนเข้าห้องพักกันสักหน่อย เพราะมุมถ่ายรูปที่นี่มีเยอะมาก!!
บรรยากาศตอนกลางคืนก็ดีเหมือนกันนะ
ตื่นมาเช้านี้เรามารับประทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร โดยให้บริการอยู่ที่ชั้นบนของร้าน Light House Bar & Grill ตกแต่งเรียบหรูสไตล์โมเดิร์นแต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นหมู่บ้านชาวประมงในบรรยากาศสบายๆ พร้อมวิวทะเล
อาหารเช้าของวันนี้เสิร์ฟเป็นแบบ A La Carte ซึ่งสามารถสั่งได้แบบบุฟเฟ่ต์ เมื่อเข้ามานั่งก็จะได้รับน้ำส้มคั้นสดและสลัดผักให้รับประทานระหว่างรออาหารที่เราสั่งไป
โดยเมนูอาหารมีให้เลือกถึง 4 เมนูด้วยกัน แต่เราเลือกสั่งเป็น ข้าวคลุกพริกเกลือ โดยเมนูนี้นำน้ำจิ้มซีฟู้ดมาคลุกเคล้ากับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟคู่มากับกุ้ง หมึกสด และไข่ยางมะตูม
ต่อด้วยเมนู ABF Peggy’s Set เป็นชุดอาหารเช้าสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งไข่ดาว ไข่กวน และไข่ม้วน เสิร์ฟพร้อมเบคอน แฮม และไส้กรอกหมู-ไก่
สุดท้ายเป็น ข้าวต้มชาวประมง เป็นเมนูข้าวต้มทะเลร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงทั้งพริกป่น น้ำตาล และน้ำส้มสายชู
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจึงพากันมาเดินเล่นถ่ายรูปในรีสอร์ท และนั่งพักผ่อนชิลล์ๆ ริมสระว่ายน้ำเก็บความทรงจำดีๆ ที่ได้รับจากที่นี่ให้เต็มที่ก่อนกลับกันสักหน่อย
บรรยากาศที่นี่สวยทุกมุมจริงๆ (:
เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท (Peggy’s Cove Resort) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่พักผ่อนที่สามารถมาเที่ยวผ่อนคลายกันได้ทั้งครอบครัวจริงๆ ซึ่งหากใครที่กำลังจะเดินทางมาท่องเที่ยวจันทบุรีและมองหาที่พักสวยๆ บรรยากาศดีแถมอยู่ติดชายหาดคุ้งวิมานแบบนี้ ก็ลองแวะมาพักผ่อนเติมพลังงานดีๆ สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมกับมุมพักผ่อนชิลล์ๆ กันได้ที่ เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท (Peggy’s Cove Resort) หรือใครที่อยากรับประทานอาหารอร่อยๆ ก็มีร้าน Light House Bar & Grill และ Coffee Cove ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูคาวหวานที่รับรองได้เลยว่าจะต้องถูกใจนักเดินทางอย่างแน่นอน
Location: 44 ม.7 หาดคุ้งวิมาน ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
ร้าน Light House Bar & Grill: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น.
ร้าน Coffee Cove: เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.
Price: ราคาเริ่มต้น 2,800-9,000 บาท/ห้อง/รวมอาหารเช้า (ราคาห้องพักอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น กรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง)
Phone: 039 460 345, 061 405 4499
Facility: โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น น้ำดื่ม แก้วน้ำ ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมทาผิว ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำ กาแฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
Facebook: Peggy’s Cove Resort
Website: เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท
Line ID: @peggyscove (มี @ ด้านหน้า)