One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ เช็คอินไฮไลท์เด็ดที่ไม่ได้มีแค่ทะเล
111 ครั้ง
24 ก.ย. 2567
111 ครั้ง
24 ก.ย. 2567
ชลบุรี หนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกที่หลายคนคงรู้จักกันเป็นอยากดีและคงจะนึกถึงชายหาดขาวๆ และทะเลสีครามอันกว้างใหญ่เป็นอย่างแรก แต่จริงๆ แล้วชลบุรียังมีมุมอื่นๆ ที่สวยงามไม่แพ้กัน ทริปนี้เราเลยจะพาไปเที่ยวที่ ศรีราชา เมืองน่าเที่ยวของจ.ชลบุรี กับ One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ เช็คอินไฮไลท์เด็ดที่ไม่ได้มีแค่ทะเล ถ้าใครอยากมาเที่ยวชิลล์ๆ เน้นการพักผ่อน แวะที่เที่ยวและร้านอาหารท่ามกลางธรรมชาติก็มาปักหมุดมาเที่ยวตามรอยกันได้เลย
เริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ขึ้นมอเตอร์เวย์ ใช้ระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็ถึง จ.ชลบุรี จากนั้นก็ขับไปโซนศรีราชาโลด วันนี้เราจะเริ่ม One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ กันด้วยการย้อนวันวานไปที่เที่ยวยอดฮิตในวัยเด็กอย่าง สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตะลุยดูความน่ารักเหล่าสัตว์โลกอย่างใกล้ชิด
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เรียกได้ว่าเป็นสวนสัตว์ใกล้กรุงเทพฯ ที่เหมาะกับการชวนเพื่อนๆ หรือครอบครัวมาเที่ยวในวันหยุด ภายในสวนสัตว์มีพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ และมีสัตว์อยู่กระจายตามโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนสัตว์แอฟริกัน ซาวันน่า โซนสัตว์ป่าเอเชีย โซนหุบเสือป่า โซนกรงนก โซนเกาะลีเมอร์ รวมถึงมีโชว์พิเศษจากเหล่าสัตว์ตัวน้อยๆ ที่ต่างกันไป ถ้าใครไม่อยากพลาดความน่ารัก อยากเที่ยวให้ทั่วสวนสัตว์แนะนำว่าให้เผื่อเวลากันด้วยนะ
ถ้าอยากดูสัตว์ตัวไหนเป็นพิเศษก็ดูตามแผนที่นี้ได้เลย แม้พื้นที่สวนสัตว์จะกว้างใหญ่แต่ก็ไม่ต้องกลัวหลงทาง
จุดแรกเมื่อมาถึงสวนสัตว์จะต้องมาชำระค่าบริการตรงหน้าทางเข้า โดยค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ 200 บาท และเด็กคนละ 50 บาท รวมถึงมีค่าที่จอดรถยนต์คันละ 80 บาท หลังจากนั้นเราจะได้ตั๋วที่มี QR Code แผนที่และรอบการแสดงสัตว์
มีบริการรถไฟพาเราไปตามจุดต่างๆ ด้วยนะ ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท เด็กราคา 30 บาท (เด็กอายุ 3-12ปี) หรือจะใช้บริการเช่ารถกอล์ฟไฟฟ้าก็ได้นะ ขับชมธรรมชาติและสวนสัตว์ ชิลล์มาก สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบาย ค่าเช่ารถจะอยู่ที่ 4 ที่นั่ง 500 บาท ต่อ 2 ชั่วโมงแรก
บรรยากาศตรงนี้เหมือนหลุดเข้ามาในทุ่งหญ้าสะวันน่าเลยล่ะ มีเหล่าสัตว์จากแอฟฟริกาเพียบ ไม่ว่าจะเป็นยีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ เสือขาว สิงโต แรด เราสามารถป้อนอาหารน้องได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วยนะ และโซนสัตว์แอฟริกานี้ ถือเป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดในสวนสัตว์เลยล่ะ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
ดูสัตว์กันจนใจฟูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องมาเก็บภาพสวยๆ ฟีลญี่ปุ่น พร้อมไหว้พระ มูเสริมดวงกันสักหน่อยที่ วัดเขาตะแบก วัดดังศรีราชาที่มีไฮไลท์เยอะมาก เรียกได้ว่าเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ วิหารวัดเขาตะแบก ที่มีบรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้มากมาย ตลอดทาง และที่พลาดไม่ได้คือการชมวิวสุดปังที่ สกายวอล์ก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมูแบบน่ารักๆ อย่างการ ผูกริบบิ้นเสริมสิริมงคล ด้วย
มีจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ ตลอดทางเลย
เรามาเริ่มจากการผูกริบบิ้นขอพร โดยริบบิ้นแต่ละสีก็จะมีคำอธิษฐานที่ต่างกันไป ใครอยากขอพรและอธิษฐานเน้นในเรื่องไหนก็สามารถเลือกสีของริบบิ้นตามที่ทางวัดมีกำกับไว้ได้เลย หลังจากนั้นก็นำริบบิ้นไปผูกบนต้นไม้ หรือตามอุโมงค์ไผ่และขอบสะพาน บอกเลยว่ามุมนี้ให้ฟีลเหมือนอยู่วัดที่ญี่ปุ่น ต้องแชะภาพเก็บไว้สักหนึ่ง!
สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะเป็นทางเดินปูนคอนกรีตที่จะพาเราค่อยๆ ไต่ขึ้นเนินเขา พร้อมชมธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วย ต้นตะแบก และต้นไผ่สีเขียวที่เต็มไปด้วยริบบิ้นสีสันต่างๆ
เดินใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ๆ ทำให้รู้สึกไม่ร้อนมากเกินไป แถมมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ตลอดทางเลย
ต่อด้วยเดินดูวิวบนสกายวอล์ค รับลมสบายๆ โดยสกายวอล์ควัดเขาตะแบกมีความยาวประมาณ 226 เมตร ส่วนที่เป็นสะพานกระจกยาว 50 เมตร และมีความสูงประมาณ 25 เมตร จากบนนี้เราจะได้ชมวิวของป่าเขาเขียวขจีได้อย่างกว้างไกลไปจนถึงอ่างเก็บน้ำได้แบบ 360 องศา
และมาถึงวัดเขาตะแบกทั้งทีเราก็ไม่พลาดที่จะเดินฝ่าบันไดกว่าร้อยขั้นขึ้นไปยังวิหาร เพื่อไปไหว้ขอพรกับพระพุทธโสธร พระพุทธรูปเก่าแก่ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ เป็นองค์พระประธาน ล้อมรอบด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าถึงพุทธประวัติ บรรยากาศเงียบสงบมาก ถือว่าเป็น One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ที่ได้ทั้งมามูและได้ภาพสวยๆ ฟีลญี่ปุ่นกลับไปเยอะเลย
ใช้เวลาดื่มด่ำบรรยากาศและถ่ายรูปไปกับ 2 โลเคชั่นแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็แวะมากินอาหารมื้อกลางวันกันที่ หน้าต่างเขียว ร้านอาหารสุดกรีน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนเยาวภา โดยในสวนนี้มีพื้นที่กว้างขวางแบ่งออกเป็นโซนร้านอาหาร คาเฟ่ และสวนผัก ส่วนของร้านอาหารหน้าต่างเขียวจะมีการตกแต่งที่เรียบง่าย เป็นอาคารไม้เล็กๆ แบบเปิดโล่งอยู่ติดกับริมน้ำได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดสุดๆ มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นหน่อยๆ ใช้เวลาขับรถจากวัดเขาตะแบกมาที่นี่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
บรรยากาศร้านให้ฟีลสบายๆ เหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อนเลย
เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารไทย รวมทั้งเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และเมนูเครื่องดื่มที่เป็นน้ำผลไม้สกัดเย็นที่มีให้เลือกหลายสูตร โดยทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและใช้ผักออร์แกนิคที่ปลูกเองมาเป็นส่วนประกอบในทุกเมนูอาหาร ถูกใจสายเฮลตี้แน่นอน
เราก็ไม่รอช้าจัดเต็มมาเลยทั้ง น้ำพริกปลาทู (คีโต) ราคา 130 บาท ยำยกสวนเยาวพา ราคา 210 บาท น้ำยำครบรส เผ็ดกำลังดี เครื่องแน่นมาก กินคู่กับ ไก่อบโอ่ง ราคา 190 บาท เนื้อไก่นุ่มและฉ่ำมาก อร่อยเข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ก็ยังมี ห่อหมกหน่อไม้หมูสามชั้น ราคา 80 บาท จัดมาอีกหนึ่ง!
อาหารเต็มโต๊ะสุดๆ เห็นอะไรน่ากินก็สั่งมาหมด
ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มเราลองสั่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง หน้าต่างเขียวชามะนาว ราคา 80 บาท สดชื่นมาก มีกลิ่นหอมชาอ่อนๆ และอีกเมนูที่อยากแนะนำคือ หน้าต่างเขียวชาอัญชันมะนาว ราคา 80 บาท ได้รสเปรี้ยวหวาน ดื่มแล้วคลายร้อนมากๆ และสายสุขภาพต้องไม่พลาดน้ำผักผลไม้สกัด อย่าง น้ำสกัดเย็น สูตรต้านหวัด ราคา 55 บาท แก้วนี้มีทั้งแครอท แอปเปิ้ลเขียว และส้ม อีกแก้วคือ น้ำเคลสกัด สูตรน้ำผึ้งมะนาว ราคา 55 บาท
มื้อกลางวันนี้เรียกได้ว่าอิ่มอร่อยได้สุขภาพมากๆ สำหรับร้านอาหารหน้าต่างเขียว บอกเลยว่าร้านบรรยากาศดี แถมมีกิจกรรมให้ทำ ใครมาเที่ยวศรีราชาต้องจดที่นี่ลงลิสต์ไว้เลย
สำหรับ One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ ครั้งนี้ ไม่พลาดที่จะมาเช็คอินแลนด์มาร์กใจกลางเมืองศรีราชาอย่าง สำนักสงฆ์เขาพระครู สถานปฏิบัติธรรมบนยอดเขาที่นอกจากจะเงียบสงบและมีความร่มรื่นแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองแบบพาโนรามา และมีประติมากรรมพญานาคที่สวยงาม ใครขับรถผ่านมารับรองว่าก็จะต้องสะดุดตากับความงดงามที่เหมือนต้องมนต์สะกดจนต้องวนรถกลับมาเช็คอินเลยทีเดียว
เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้ทั้งเติมแต้มบุญและได้รูปสวยๆ กลับไปแน่
วิวบนนี้ใจฟูมาก!! สามารถมองเห็นวิวเมืองศรีราชาได้แบบเต็มๆ ไม่พอยังมองไปไกลถึงทะเลเลยด้วย
ไฮไลท์ของสำนักสงฆ์เขาพระครูคือ พญานาคชมเมือง องค์พญานาคขนาดใหญ่ 2 ตนที่ถูกออกแบบมาอย่างวิจิตรงดงาม และมีลูกแก้วหรือ มณีนาคราช โดยทำจากคริสตัลแท้ๆ ที่ส่องสะท้อนเป็นภาพมุมกลับของตัวเมืองศรีราชา บอกเลยว่าของจริงสวยอลังการมาก เป็นการมองภาพวิวสวยๆ ในแบบมองมุมกลับ ที่แปลกไปจากเดิมอย่างมาก
สามารถมาขอพรกับลูกแก้วได้ด้วยนะ เพียงแค่ท่องตามบทสวดและขึ้นไปเอามือลูบลูกแก้วพร้อมกับขอพรที่ปรารถนา
ถัดมาจากพญานาคชมเมืองจะมี พระพุทธลีลานาคะบารมี เป็นพระพุทธรูปปางลีลาองค์พระประธานขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนลานปฏิบัติธรรม ดูสวยงดงามและยิ่งใหญ่มาก บริเวณนี้ก็จะมีบทสวดให้เราได้กราบสักการะด้วย
นอกจากนี้ในสำนักสงฆ์เขาพระครูยังมีจุดให้ได้กราบไหว้อีกมากมาย ทั้งพระอุปคุตและยังมีหลวงพ่อทันใจ
และอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปไฮไลท์ คือ สวนหย่อมขนาดเล็ก มีน้ำตกจำลอง ลำธาร ฝูงปลาคาร์ป และต้นไม้นานาชนิด สำหรับที่ใครจะมาสำนักสงฆ์เขาพระครูแนะนำเลยว่าให้เผื่อเวลาในแพลนทริปไว้เยอะๆ เพราะที่นี่มีจุดไฮไลท์และจุดถ่ายรูปเพียบ! เรียกได้ว่าทั้งมูเตลู ทั้งถ่ายรูปเพลินกันจนลืมเวลาเลยทีเดียว
หลังจากเที่ยวชิลล์ๆ เพลินกันจนลืมเวลา ในช่วงเย็นนี้เราเลยแวะมาฝากท้องเบาๆ ที่ ร้านอาหารกึ่งบาร์ เทียบท่า ณ ศรีราชา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์เขาพระครู เพียงแค่ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถเพียงแค่ 7 นาทีก็มาถึง ตัวร้านตั้งอยู่ที่ท่าเรือจรินทร์ บรรยากาศชิลล์มาก! มีที่นั่งทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์
แสงสีทองของพระอาทิตย์อาบไปทั่วท้องทะเลเป็นภาพที่สวยมาก
สำหรับโซนที่นั่งสุดฮิตของที่นี่ก็คือโซนเอาท์ดอร์ริมทะเล ยิ่งช่วงที่เรามาเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก แสงสวยมาก บรรยากาศคือดีต่อใจสุดๆ มีลมพัดเข้ามาตลอด เป็นร้านที่เหมาะแก่การมานั่งชิลล์กับแก๊งค์เพื่อนมาก ไฮไลท์ของที่นี่คือเครื่องดื่มที่มีให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะใครที่ชอบคราฟต์เบียร์หรือเบียร์สด บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังเพราะจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติแปลกใหม่ แถมยังมีของกินเล่นและกับแกล้มด้วยนะ
หรือถ้าใครเป็นสายกินเน้นอิ่มท้องก็สามารถสั่งอาหารตามสั่งได้ ซึ่งมื้อนี้เราสั่งมาเป็น ไข่ตุ๋นทะเลหม้อไฟ ราคา 250 บาท รสชาติกลมกล่อม ไข่เนื้อนุ่มฟูอัดแน่นด้วยกุ้งและหมึกตัวโตๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ ปีกไก่คลุกฝุ่น ราคา 119 บาท และ บาร์บีคิวหมู ราคาไม้ละ 52 บาท ได้หมูมาชิ้นใหญ่มาก น้ำซอสฉ่ำๆ กินไปเม้ามอยรีแคป One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ ครั้งนี้ไปกับเพื่อนๆ ไวบ์นี้บอกเลยว่าแฮปปี้มาก!
ในช่วงดึกๆ ที่นี่เค้าก็มีดนตรีสดให้ฟังเพลงเคล้าเสียงคลื่นกับเครื่องดื่มเย็นๆ ด้วยนะ
และมาปิดท้ายทริปนี้กันที่ อ่างเก็บน้ำบางพระ พิกัดนั่งชิลล์ยามเย็น ดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่มาพร้อมกับวิวอ่างเก็บน้ำที่ไกลสุดสายตาและมีขุนเขาธรรมชาติรายล้อม แค่ได้มาเดินรับลมชิลล์ๆ ก็ฟินแล้ว ช่วงที่เรามาถึงที่นี่อาจจะเย็นไปสักหน่อย แต่ก็ยังได้รูปสวยๆ กลับไปอยู่นะ
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาอ่างเก็บน้ำบางพระคือช่วงเย็น หลัง 16.00 น. จะเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีและแดดไม่แรงมาก เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากทะเล เป็นมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่อ่างเก็บน้ำ รับรองว่ามู้ดดีไม่แพ้กัน
และทั้งหมดนี้ก็คือ One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ เช็คอินไฮไลท์เด็ดที่ไม่ได้มีแค่ทะเล ถือเป็นทริปที่ได้เช็คอินมุมใหม่ๆ ฉีกฟีลจากทะเลชลบุรี และได้รู้อีกว่ายังมีที่เที่ยวสวยๆ ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดนี้อีกมากมาย ได้ชาร์จพลังกลับไปเต็มๆ เป็นแพลนไม่แน่น ไม่เหนื่อย ไม่ต้องหาวันลา แค่วันเดียวก็เที่ยวได้สบายๆแถมได้รูปสวยๆ กลับไปลงโซเชียลอีกด้วย
ใครจัดแพลนเที่ยวใกล้กรุงเทพ แนะนำเลย One Day Trip ศรีราชา ชลบุรี ฉบับสายชิลล์ เช็คอินไฮไลท์เด็ดที่ไม่ได้มีแค่ทะเล ตามรอยได้สบายๆ นอกจากนี้ทริปเก็ทเตอร์ยังมี One Day Trip อ่างทอง สิงห์บุรี เที่ยวเมืองรองแสนสุขใจ แปะจุดเช็คสวยที่ต้องมา!! และอีกหนึ่งทริปกินเที่ยวใกล้กรุงเทพที่ไม่อยากให้พลาดกันนั่นก็คือ ทริปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน นอนแพพูลวิลล่าริมน้ำสุดชิลล์ เช็คอินคาเฟ่เปิดใหม่