เกาะล้าน 2 วัน 1 คืน แบกเป้ไปดำน้ำดูปะการัง กินเที่ยวครบ จบด้วยการนอนชิลล์ริมทะเล งบไม่เกิน 3000
70,807 ครั้ง
29 ต.ค. 2562
70,807 ครั้ง
29 ต.ค. 2562
เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์แล้วอะเนอะ ก็อยากหาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจซะหน่อย รอบนี้เราอยากไปนอนทิ้งตัวฟินๆ ริมทะเลก็เลยชวนเพื่อนซี้ไปติดเกาะด้วยกันสักคืน จัดทริปเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน กินเที่ยวแบบสั้นๆ เดินทางวันเสาร์-อาทิตย์ได้ แถมไม่ต้องเสียวันลาด้วย ทริปนี้เราหิ้วกระเป๋าเป้ไปกันคนละใบ ได้กินเที่ยวกันแบบเดินตัวปลิว แถมได้นอนชิลล์ริมทะเลน้ำใสกิ๊งแบบโคตรฟิน มัวรออะไรอยู่ ถ้ารู้แบบนี้แล้วต้องรีบไปเก็บกระเป๋า ตามเราไปติดเกาะกัน
สตาร์ทรถออกจากกรุงเทพ กันมาประมาณ 7 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ได้ไปฟินที่ทะเลกันแล้ว เราขับรถขึ้นทางด่วนเส้นบูรพาวิถีมาถึงชลบุรีก็เบี่ยงเข้าเส้นมอเตอร์เวย์ชลบุรี-พัทยา หรือใครสะดวกขับมาตามเส้นทางกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ยิงยาวกันมาจนถึงชลบุรีก็ได้ค่ะ (หากไม่มั่นใจสามารถเปิด Google Map ได้เลยนะคะ ปักหมุดไปที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายเลย)
และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งเราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปเกาะล้านค่ะ เราจึงต้องหาสถานที่ฝากรถกันหน่อย เป็นจุดจอดรถอัตโนมัติอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือแหลมบาลีฮาย สะดวกและปลอดภัยจริงๆ ค่ะ อัตราค่าบริการอยู่ที่ชั่วโมงละ 30 บาท โดยค่าจอดรถ 1 วัน ราคา 250 บาท และหากเกิน 24 ชั่วโมงก็ก็จะเริ่มนับต่อเป็นรายชั่วโมงค่ะ
ด้านในก็จะเป็นชั้นจอดรถแบบนี้ค่ะ ทันสมัยสุดๆ
หลังจากฝากรถเสร็จแล้ว เราก็รีบพุ่งตัวไปขึ้นเรือรอบ 09.30 น. ถ้าจะขึ้นเรือสามารถเดินเข้ามาด้านในสุดของท่าเรือแหลมบาลีฮายเลยนะคะ จะมีเรือจอดอยู่และคนเดินกันอยู่เต็มบริเวณเลยค่ะ ค่าโดยสารเรือข้ามฟากราคาคนละ 30 บาท จ่ายเงินตรงทางขึ้นเรือได้เลยค่ะ จ่ายเสร็จก็สามารถขึ้นไปนั่งรอบนเรือได้เลย และเมื่อคนเต็มแล้วเรือก็จะออกเดินทางไปยังเกาะล้าน ลุยโลด!!
นั่งเรือข้ามฟากกันมาประมาณ 45 นาที เรือก็เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือหน้าบ้าน เกาะล้านแล้ว เย้! และการจะเที่ยวบนเกาะได้แบบชิลล์ๆ ไร้กังวลเราจึงทำการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ค่ะ ค่าเช่ารถที่นี่วันละ 400 บาทเท่านั้น!! แค่นี้เราก็สามารถขับรถเที่ยวทัวร์ได้ทั่วเกาะเลยค่ะ เมื่อได้รถมาแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังที่พักในคืนนี้กันเลย แต่เรามาถึงกันก่อนเวลาเช็คอินค่ะ เราจึงพากันมานั่งเล่นที่ รินรักษ์คาเฟ่ (Rinrak Cafe) (ร้านเปิดทุกวันเวลา 8.00-19.00 น.) เป็นคาเฟ่ชิคๆ สีขาวตกแต่งสไตล์มินิมอล รายล้อมไปด้วยกระบองเพชร ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้าม บ้านรินรักษ์ รีสอร์ท (Baan Rinrak Resort) ที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ
เราสั่งขนมมากินกันก็นิดๆ หน่อยๆ ตามแบบฉบับสาวๆ ค่ะ ซึ่งเมนูของที่นี่ก็จะมีทั้งเครื่องดื่มและของหวาน เราเลือกสั่ง วาฟเฟิลกับบราวนี่ และเครื่องดื่มก็สั่งเป็นสตรอว์เบอร์รี่โซดา และลาเต้ร้อน นั่งกินเล่นกันไประหว่างรอเข้าห้องพักค่ะ
นั่งกินกันจนเพลิน เกือบลืมเวลา เหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ได้เวลาเช็คอินเข้าห้องพักพอดี และนี่คือห้องที่เราจะนอนกันในคืนนี้ Deluxe Seaview 12 บอกเลยว่า วิวจัดเต็มมาก ห้องพักอยู่ด้านในสุดของที่พักเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศา ภายในห้องพักกว้างขวางมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก มาพร้อมเตียงคิงไซส์หนานุ่มนอน 2 คนสบายๆ ค่ะ แถมยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผม และ WIFI ตอบโจทย์คนแบกเป้เที่ยวอย่างพวกเราได้เป็นอย่างดี
ห้องน้ำที่นี่ก็เน้นโทนสีดำ พร้อมกระจกใสบานใหญ่ให้อาบน้ำไปดูทีวีไปก็ได้ บ้านรินรักษ์ รีสอร์ท โทร. 080 096 2828
หลังจากเก็บกระเป๋าและนอนเล่นพักผ่อนกันมาสักพักใหญ่แล้ว ก็ได้เวลาที่ไปลอยตัวอยู่กลางทะเลกันแล้ว ซึ่งก่อนที่เราจะมาเกาะล้านเราได้จองแพ็กเก็จดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นเอาไว้ เป็นแพ็กเกจของเกาะล้านสไมล์ จ่ายราคาสบายกระเป๋าคนละ 200 บาทค่ะ พี่เขานัดเวลาขึ้นเรือไว้ตอน 13.30 น. ค่ะ ซึ่งเรือจะออกเวลา 14.00 น. เราจึงพากันขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดไว้ที่ท่าเรือหน้าบ้าน รับตั๋วขึ้นเรือและนั่งรอเรือกันสักพักพี่เขาก็จะเรียกเราขึ้นเรือค่ะ
เรือมาแล้ว เย้! ไปขึ้นเรือกัน
และสถานที่ที่เราไปดำน้ำกันก็คือ เกาะสาก เป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและปะการังที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของที่นี่ค่ะ ซึ่งแพ็กเกจของเราเป็นการดำน้ำตื้นค่ะ (Snorkelling) โดยใส่ชูชีพ ใส่อุปกรณ์ดำน้ำคือ หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจ พี่ๆ บนเรือเขาใจดีมากค่ะ พี่เขาก็จะสอนวิธีการใส่เสื้อชูชีพ ใส่หน้ากากดำน้ำ และวิธีการใช้ท่อหายใจ หากใครว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถลงไปดำน้ำได้นะคะ แจ้งพี่ๆ บนเรือได้เลย พี่ๆ เขาก็จะคอยดูแลเราอย่างใกล้ชิดค่ะ
ใส่เสื้อชูชีพแล้ว ไปยืนชมวิวท้ายเรือกันหน่อย
พร้อมลงน้ำแล้วจ้า
น้ำทะเลที่เกาะสากใสมาก มองเห็นปะการังได้อย่างชัดเจน สวยงามมาก
นอกจากจะได้ดำน้ำตื้นแล้วยังมีเครื่องเล่นกลางทะเลให้เล่นกันอีกด้วยนะ มีทั้งสไลด์เดอร์ แทรมโพลีน และอีกมากมายให้ได้เล่นกันแบบอิ่มหนำสำราญใจสุดๆ
หลังจากที่ได้ไปดำน้ำดูปะการังและเล่นเครื่องเล่นกันจนหนำใจแล้ว ขึ้นมาบนเรือพี่ๆ เขาก็เตรียมแตงโมเย็นๆ หวานฉ่ำไว้ให้เราได้กินกันด้วย
และตอนนี้ก็ได้เวลากลับขึ้นฝั่งกันแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที เราก็มาถึงท่าเรือหน้าบ้านกันแล้วค่ะ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ พากันแว๊นมอเตอร์ไซค์ไปกินอาหารเย็นกันที่ มา-หา-รัก คาเฟ่ (Maharak Cafe) เป็นคาเฟ่และร้านอาหารริมทะเลที่ใครได้มาเยือนเกาะล้านแล้วต้องมานั่งชิลล์ ดินเนอร์อาหารเย็นกันที่นี่ให้ได้
บรรยากาศภายในร้านคือ ชิลล์มากๆ ยิ่งมานั่งโซนเอาท์ดอร์ริมทะเลคือ ฟินมาก บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบายตลอด
บรรยากาศภายในร้านและบริเวณชั้น 2 ชิลล์มาก มีระเบียงด้วย
ก่อนหน้านี้เหนื่อยและหิวพอสมควร สั่งอาหารมากินกันทั้งหมด 4 อย่าง ในเมื่อมาเที่ยวทะเลทั้งทีต้องเน้นกุ้ง เน้นปลาหมึกสิคะ อาหารของที่นี่เป็นสไตล์ฟิวชั่น ทำสดใหม่ทุกเมนู
เมนูแรกที่ขอนำเสนอเลยคือ สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งกุ้งสด เป็นสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำ ผัดคลุกเคล้ากับพริกแห้ง ใส่กุ้งสดๆ แบบจัดเต็ม
ต่อด้วย ข้าวผัดฉ่าทะเล เป็นอาหารไทยพื้นบ้านหนักเครื่องมี กุ้ง หอย หมึกครบผัดกับพริกแกงหอมๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ คือดี บอกเลย
มาหารักสลัด เป็นสลัดผัก ผลไม้ จัดเต็มทั้งกุ้ง ทั้งหมึก ราดด้วยน้ำสลัดเทาส์ซันไอแลนด์ จับคู่มากับ พีชที ชาพีชกลิ่นหอมละมุน
ปิดท้ายด้วย ยำกุ้งตะไคร้ รสชาติเผ็ดเปรี้ยวหวานลงตัว กุ้งสดเต็มคำ จับคู่มากับ น้ำเสาวรสปั่น เปรี้ยวหวาน สดชื่นดีทีเดียว
กินข้าวกันอิ่มแล้วได้เวลากลับไปนอนพักผ่อนกันแล้ว เพราะวันพรุ่งนี้เราจะไปขับเที่ยวบนเกาะกันค่ะ Maharak Cafe เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 12.00-23.00 วันเสาร์ปิดเที่ยงคืน มีดนตรีสดทุกวันขึ้นเล่นเวลา 20.00-23.00 น. (ร้านหยุดทุกวันพุธ) โทร. 082 444 4214
เก็บบรรยากาศตอนเย็นมาฝากกันจ้า
ตื่นกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า มานั่งชิลล์ๆ ชมวิวทะเลยามเช้ากันที่หน้าห้องพักสักหน่อย ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารเช้า
โดยอาหารเช้าที่บ้านรินรักษ์จะจัดมาเป็นเซ็ตแบบ American Breakfast หรือหากใครไม่อยากทานเซ็ตอาหารเช้า ก็สามารถสั่งเป็นไข่กระทะได้ค่ะ
นอกจากนั้นยังมีปาท่องโก๋ ผลไม้ ซีเรียล ชา กาแฟ น้ำส้ม ขนมปัง และแยมให้ตักกันได้ไม่อั้น
กินอิ่มกันแล้ว ก็ได้เวลาไปขับรถเล่นทัวร์เกาะล้านกัน
เราพากันมาเที่ยวที่หาดตายาย ใช้เวลาเดินทางจากบ้านรินรักษ์ไปที่หาดแค่ 4-5 นาที (หากใครกลัวหลงก็สามารถเปิด Google Map ดูได้ค่ะ)
เมื่อเดินเข้าไปถึงบริเวณหาดแล้วต้องร้องว๊าวยาวๆ เลยเพราะว่าทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาว แถมมาในช่วงสายๆ แบบนี้ก็ไม่ค่อยร้อนมาก และคนน้อยได้รูปสวยๆ เพียบ
เดินเล่นเอาเท้าไปจุ่มน้ำทะเลกันสักหน่อย
ขึ้นไปถ่ายรูปตรงโขดหิน มุมนี้แจ่มสุดๆ ไปเลย
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปกันมาพักใหญ่แล้ว ตอนนี้ก็เที่ยงวันพอดี เราจึงพากันแว๊นรถมอเตอร์ไซค์กลับไปยังที่พักเพื่อเช็คเอาท์ แต่เมื่อวานยังไม่ได้รูปไปเปลี่ยนโปรไฟล์ใหม่เลย เราจึงพากันไปนั่งชิลล์ที่คาเฟ่สุดน่ารัก FAT SUBMARINE Cafe & Chillout คาเฟ่สุดเก๋ตกแต่งเรียบง่ายที่มีโลเคชั่นดีมาก ตั้งอยู่หน้าวัดใหม่สำราญ สามารถเดินจากท่าเรือหน้าบ้าน เพียง 5 นาทีก็ถึง
ภายในร้านมีโซนให้เลือกนั่งทั้ง In Door ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ หรือหากใครชอบนั่งชิลล์ริมทะเลที่นี่เค้าก็จัดให้ บรรยากาศริมทะเลนั้นดีมากๆ บอกเลยว่าใครได้มาที่นี่จะต้องได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน
และเมนูอาหารเที่ยงที่เราสั่งมากินกันวันนี้ก็มีทั้งคาวหวาน
เริ่มต้นกันที่ ข้าวกุ้งผัดพริกเกลือ กุ้งตัวใหญ่เต็มคำ หอมเครื่องพริกเกลือ รสชาติกลมกล่อมเข้าเนื้อกุ้งสุดๆ
ต่อด้วย ข้าวขยุ้มปลาทู & ไข่เจียว ที่คลุกเคล้าเนื้อปลาทูกับข้าว เสิร์ฟคู่กับไข่เจียว มีพริกสดและหอมแดงเป็นเครื่องเคียง
กินคาวไม่กินหวานก็ไม่ได้ด้วย เลยจัดอีกเมนูแนะนำของร้าน French Toast serve with fruits & ice-cream โทสต์สไตล์ฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับผลไม้ตามฤดูกาล และไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่หวานฉ่ำ จับคู่มากับ Submarine Signature Coffee กาแฟสูตรพิเศษใส่ผลไม้อย่างไซรัปมะม่วง ไซรัปเสาวรส และน้ำผึ้งผสมกันได้อย่างลงตัว
และหากใครมาถึงเรือดำน้ำแห่งนี้แล้ว จะต้องสั่งเมนูสุดละมุนสีพาสเทลยอดฮิตของร้านอย่าง Under The Sea Mermaid Milk สีหวานมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ
กินอิ่มกันแล้วไปถ่ายรูปเล่นกันต่ออีกสักหน่อย ก่อนจะเดินทางไปยังท่าเรือหน้าบ้านเพื่อคืนรถและนั่งเรือกลับท่าเรือแหลมบาลีฮายกันค่ะ FAT SUBMARINE Cafe & Chillout เปิดบริการวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 9.30-21.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์เวลา 9.00-21.00 น. โทร. 095 1 629 536
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จเราก็เดินทางกลับพัทยากัน บรรยากาศกำลังดีเลยค่ะ
ลงเรือมาแล้ว ก็ต้องแวะถ่ายรูปกันตรงจุดถ่ายรูปยอดฮิต
เป็นยังไงกันบ้างคะ? สำหรับทริปสั้นๆ ที่แบกเป้เที่ยวเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน ได้กิน ได้เที่ยว ได้รูปสวยครบจบในทริปเดียวเลยใช่ไหมล่ะคะ หากใครมีเวลาน้อยและว่างแค่ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์แบบพวกเราก็ไม่ต้องกังวลไปเลยว่าจะหาเวลามาเที่ยวไม่ได้หรือจะต้องลางานหลายวัน เพราะในทริปนี้เราไม่ได้ลางานกันเลย เพียงแค่หาเวลาว่างที่ตรงกัน แล้ววางแพลนมาเที่ยวเกาะล้านตามประสาเพื่อนซี้แบบสองสาว เพื่อมาพักผ่อนหย่อนใจเติมพลังให้พร้อมกลับไปลุยงานต่อในวันจันทร์ แถมยังได้เที่ยวครบทั้งดำน้ำชมปะการัง กินอาหารทะเล และนั่งคาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ บนเกาะล้านริมทะเลด้วย หากใครมีเวลาว่างก็ลองเดินทางสวยๆ มาเที่ยวทะเลใสกิ๊งตามทริปเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน แบกเป้ไปดำน้ำดูปะการัง ได้กินเที่ยวครบ จบด้วยการนอนชิลล์ริมทะเลสุดฟินแบบไม่ต้องลางานกันได้นะคะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน
– ค่าเรือไปกลับเกาะล้าน-ท่าหน้าบ้าน ราคา 120 บาท / จ่ายคนละ 60 บาท
– ค่าที่พักบ้านรินรักษ์ 1 คืน ราคา 2,000 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 1,000 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่รินรักษ์คาเฟ่ ราคา 304 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 152 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่มาหารัก คาเฟ่ ราคา 976 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 488 บาท
– ค่าแพ็กเกจดำน้ำตื้น ราคา 400 บาท / จ่ายคนละ 200 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ FAT SUBMARINE Cafe & Chillout ราคา 597 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 298.5 บาท
– ค่าจอดรถที่จุดจอดรถอัตโนมัติแหลมบาลีฮาย ราคา 370 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 185 บาท
– ค่าเช่ารถจักรยานยนต์วันละ 400 บาท 2 วัน 800 บาท / หารกับเพื่อนคนละ 400 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับ 2 คนตกคนละ 2,783 บาท