นั่งรถไฟ 10 บาท เที่ยวตลาดสมุทรสงคราม พานั่งเรือไปวัดจุฬามณี
21,312 ครั้ง
17 ก.พ. 2566
21,312 ครั้ง
17 ก.พ. 2566
ใครกำลังเบื่อๆ อยากได้วันเดย์ทริปชิลล์ๆ ลองมานั่งรถไฟไปเที่ยวกันไหม วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะพาทุกคนไปตระเวนเที่ยวด้วยรถสาธารณะ บอกเลยว่าถึงแม้จะไม่มีรถเราก็สามารถเที่ยว 3 จังหวัด 3 ตลาดได้ในวันเดียว! และตลอดทั้งทริปนี้เราจะพากิน พาเดินทาง พาไหว้ท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณี เตรียมกำแบงก์ 500 แล้วไปเที่ยว นั่งรถไฟ 10 บาท เที่ยวตลาดสมุทรสงคราม พานั่งเรือไปวัดจุฬามณี ใครชอบเที่ยวแนวนี้ก็ตามมาดูกันเลย~
วันนี้เราเตรียมตัวกันแต่เช้าเพราะมีแพลนไปเที่ยวตลาดมหาชัย ตลาดแม่กลอง และตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งเป็น 3 ตลาดที่เราสามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยรถสาธารณะต่างๆ บอกเลยว่าทริปนี้มีขึ้นรถไฟ ลงเรือ โดดขึ้นสองแถว ว่าแล้วก็มาเริ่มจุดหมายแรกของทริปกันที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ซึ่งการจะเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมากๆ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์มาลงสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ได้เลย เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ สำหรับใครที่จะมาขึ้นรถไฟก็แนะนำให้เช็คตารางรถไฟล่วงหน้าและมาถึงก่อนเวลาสักเล็กน้อย มาถึงกันแต่เช้าถ้าหิวก็สามารถหาอะไรกินรองท้องแถวๆ สถานีรถไฟได้เลย มีร้านขายของเพียบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านรถเข็น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ
เช็คตารางเดินรถไฟได้ตรงนี้เลย
ขอบคุณรูปภาพจาก: การรถไฟแห่งประเทศไทย
สำหรับขบวนที่เราขึ้นเป็นสายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย รอบเวลา 07.00 น. เมื่อมาถึงสถานีเราสามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ในราคาเพียง 10 บาท ราคาถูกและสบายกระเป๋ามาก ส่วนระยะเวลาการเดินทางก็ไม่นาน นั่งรับลมเพลินๆ 1 ชั่วโมงก็ถึงมหาชัยแล้ว บอกเลยว่าบางทีการนั่งรถไฟก็เร็วกว่าขับรถด้วยซ้ำ
รถไฟมาตรงเวลาเลย ดังนั้นใครซื้อตั๋วแล้วก็เตรียมตัวให้พร้อม ห้ามเลทเด็ดขาด
นั่งรถไฟชิลล์ๆ วิวสองข้างทางมีทั้งวิวเมือง วิวต้นไม้ และที่สำคัญเรายังได้เห็นวิถีชีวิตของคนตามแนวรถไฟ รวมถึงผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน พ่อค้า แม่ค้า หรือวัยทำงาน เรียกได้ว่าตลอดการนั่งอยู่บนรถไฟมีเรื่องราวของผู้คนมากมาย
เวลาประมาณ 08.00 น. ก็ถึงสถานีปลายทางมหาชัยแล้ว ก่อนอื่นเราก็มาเดินเล่นกันแถวๆ รางรถไฟกันก่อน จากที่สังเกตในช่วงเช้าบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดสด ตลอดทางเต็มไปด้วยร้านขายผัก ผลไม้ ของทะเล หรือพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ และแน่นอนมาตลาดมหาชัยก็ต้องซื้อของทะเลสดๆ ใครที่อยากได้ของทะเลสดๆ แนะนำให้มาตั้งแต่เช้ามืด โดยร้านค้าจะเริ่มตั้งแผงกันตั้งแต่ตี 4 ส่วนใครมาสายๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าตลาดจะวาย เพราะตลาดมหาชัยมีของขายตลอดทั้งวัน
หลังจากเดินสำรวจตลาดกันเรียบร้อย ก็เตรียมเดินไปขึ้นเรือข้ามฟากไปท่าฉลอมเพื่อต่อรถไฟไปยังตลาดแม่กลองกันต่อ ก่อนอื่นเรามาตั้งต้นกันที่ป้ายสถานีมหาชัยและเดินออกไปทางตลาด ผ่านตลาดตรงนี้ของกินเยอะมาก เหมาะกับหาอะไรกินเล็กๆ น้อยๆ อีกทั้งยังมีร้านขายของฝากและของทะเลด้วย
ระหว่างเดินไปท่าเรือมีของขายตลอดทางจริงๆ
เดินมาสักพักเราก็เจอร้านรถเข็นขายซาลาเปาชิ้นโตๆ ขาวๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวต้องขอแวะอีกสักร้าน ซึ่งซาลาเปาร้านนี้มีสูตรดั้งเดิมจากไหหลําและเป็นร้านเก่าแก่ของมหาชัย มีขายทั้งซาลาเปา หมั่นโถ และขนมจีบหมู ส่วนใครมาก็แนะนำว่าต้องสั่งซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มและหมั่นโถ ความพิเศษของร้านนี้ก็คือทางร้านจะมีน้ำผึ้งแถมมาให้กินคู่กับหมั่นโถ บอกเลยว่าเป็นความแปลกใหม่ที่เข้ากันสุดๆ ใครที่อยากลองชิมก็ตามมาได้เลย ร้านเปิดขายทุกวันและพิกัดอยู่หน้าท่าเรือข้ามฟากมหาชัย
ซาลาเปานุ่มๆ ชิ้นโตๆ ราคาอยู่ที่ 25 บาท
เดินจากสถานีรถไฟมหาชัยมาแป๊บเดียว ระยะทางประมาณ 500 เมตรก็มาถึงท่าเรือข้ามฟากแล้ว โดยท่าเรือนี้มีจะเรือมาจอดตลอดและเปิดบริการ 24 ชั่วโมง มาถึงก็จ่ายเงินข้ามฟากคนละ 3 บาท เสร็จแล้วขึ้นไปรอบนเรือได้เลย บอกเลยว่าบนเรือมีทั้งคนและมอเตอร์ไซค์ใช้บริการเรือไม่ขาดสาย
นั่งเรือข้ามฟากเพียง 2 นาทีก็มาถึงฝั่งท่าฉลอมแล้ว เดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยเราจะเดินไปตามป้ายทางไปรถไฟบ้านแหลม บอกเลยว่ามาแล้วรับรองไม่หลงแน่นอน ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากสามารถเดินได้สบายๆ อีกทั้งยังมีกราฟฟิตี้สวยๆ ให้ถ่ายรูปเช็คอินระหว่างทางด้วย หรือถ้าใครไม่อยากเดินจริงๆ ก็มีรถสามล้อไปส่งถึงสถานีรถไฟ ราคาอยู่ที่ 20 – 30 บาท
ท่าฉลอมก็มีที่เที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ใครมีเวลาก็ลองเที่ยวตามแผนที่นี้ได้นะ
เดินเรื่อยๆ จากท่าเรือฉลอมผ่านวัดแหลมสุวรรณารามก็มาถึงสถานีรถไฟบ้านแหลม สำหรับตรงนี้อยากให้ทุกคนเช็ครอบรถไฟและวางแพลนเวลาเดินทางดีๆ เพราะรอบรถไฟที่ออกจากสถานีบ้านแหลมไปแม่กลองจะมีรอบ 07.30, 10.10, 13.30 และ 16.40 น. ดังนั้นถ้าเราพลาดรอบที่ตั้งใจไว้ ก็ต้องรอขบวนถัดไปอีกนานเลย ส่วนเราแพลนขึ้นรถไฟตอนรอบ 10.10 น. มาถึงก่อนเวลาสักเล็กน้อยจะได้มานั่งพักผ่อน
ตารางรถไฟสายบ้านแหลม – แม่กลอง มีแค่ 4 รอบเท่านั้นนะ
ขอบคุณรูปภาพจาก: การรถไฟแห่งประเทศไทย
สำหรับรถไฟสายบ้านแหลม – แม่กลองค่อนข้างต่างกับสายวงเวียนใหญ่ที่เรานั่งมาก่อนหน้านี้ โดยสายนี้เป็นสายท่องเที่ยว ทั้งขบวนรถจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและความตื่นตาตื่นใจของชาวต่างชาติ จนทำให้เรารู้สึกสนุกและตื่นเต้นตามไปด้วย แถมวิวทิวทัศน์ของสายนี้จะได้ภาพนาเกลือ นากุ้ง เรียกได้ว่าเป็นการเดินทาง 1 ชั่วโมงที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดก็มาถึงไฮไลท์ของการเดินทางในครั้งนี้ ตลาดแม่กลองหรือตลาดร่มหุบ เป็นตลาดที่ติดกับทางรถไฟ ตลอดแนวรถไฟทั้ง 2 ฝั่งจะมีแม่ค้าพ่อค้ากางร่ม ตั้งแผงขายต่างๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวเดินเลือกซื้อของตามรางรถไฟ แต่เมื่อได้ยินเสียงหวูดๆ ของรถไฟ บรรยากาศของตลาดจะเปลี่ยนทันที เหล่าพ่อค้าแม่ค้าเริ่มหุบร่มและลากแผงขายของหลบมาไว้ที่ด้านข้างของรางรถไฟ ส่วนนักเที่ยวต่างก็รีบวิ่งหลบมาที่ด้านข้าง พอรถไฟเคลื่อนผ่านทุกคนจะหยิบกล้อง ถือมือถือมาบันทึกภาพสุดอันซีนเหล่านี้ บอกเลยว่าระยะห่างระหว่างตัวรถไฟและกลุ่มคนที่มารอใกล้ชิดมาก เป็นช่วงที่ตื่นเต้น หวาดเสียวสุดๆ
สำหรับใครที่อยากได้ภาพรถไฟผ่านตลาดร่มหุบจะมีด้วยกันทั้งหมด 8 รอบ ได้แก่ รอบขาเข้า เวลา 06.20, 09.00, 11.30, 15.30 น. และรอบขาออก เวลา 08.30, 11.10, 14.30, 17.40 น
ภายในตลาดแม่กลองมีร้านมากมาย ทั้งร้านขายของสด ของแห้ง ร้านผลไม้ ร้านของทะเลสด ส่วนร้านกาแฟก็มีเช่นกัน ส่วนใครอยากได้ของใช้ ซื้อของฝากก็มีทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขนม และของใช้กระจุกกระจิกต่างๆ
อากาศร้อนๆ ก็ต้องไอศกรีมหลอดสักไม้สองไม้ เพิ่มความสดชื่นหน่อย
มาจนถึงตอนนี้ก็ช่วงเที่ยงแล้ว ได้เวลาที่ต้องหาร้านฝากท้องกัน เราจะหาร้านอร่อยแถวๆ ตลาดแม่กลองกัน ซึ่งร้านที่เราเลือกมาก็คือ ร้านข้าวมันไก่ไทยสวัสดี ตัวร้านเป็นตึกแถวอยู่ตรงหัวมุม จุดสังเกตง่ายๆ อยู่ตรงข้ามกับธนาคารออมสิน แค่เดินมาหน้าร้านก็รู้สึกว่าร้านนี้ต้องอร่อยเพราะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าออกตลอด และพอเราสั่งมากินก็ต้องบอกเลยว่าอร่อยจริง สำหรับเมนูทางร้านมีแต่ข้าวมันไก่ที่สามารถเลือกสั่งธรรมดาราคา 40 บาทหรือพิเศษราคา 50 บาท
ข้าวมันไก่เนื้อนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง บวกกับมีน้ำจิ้มกลมกล่อม อร่อยลงตัว แถมมีน้ำซุปร้อนๆ เสิร์ฟมาพร้อมกัน สำหรับเราสั่งข้าวมันไก่ธรรมดามาก็ถือว่าอิ่มกำลังดีเลย
กินคาวแล้วก็ต้องต่อขนมหวาน แค่เดินออกมาจากหน้าร้านข้าวมันไก่ก็มีร้านรถเข็นขายขนมถ้วยชิ้นใหญ่ๆ หอมมัน นุ่มละมุน เราก็เลยซื้อมา 1 กล่อง ราคา 20 บาท
และยังไม่พอเดินถัดมาอีกเล็กน้อยก็ได้กลิ่นหอมของแป้งและเนย ร้านโตเกียวรถเข็นที่มีขายทั้งแพนเค้ก ขนมโตเกียว โตเกียวเนยนมกรอบๆ เราเลือกซื้อโตเกียวเนยนมราคา 20 บาท บอกเลยว่าอร่อยจริง แป้งโตเกียวได้มาแผ่นบางใหญ่ กัดไปคำแรกคือกรอบและหอมเนยนมมาก ส่วนตัวร้านตั้งอยู่ข้างๆ ร้านข้าวมันไก่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. แนะนำใครที่ไปแถวตลาดแม่กลองต้องลองแวะมาซื้อแล้ว
ตอนนี้กินครบคาวหวานและอิ่มมากๆ พร้อมสำหรับการเดินทางไปยังตลาดน้ำอัมพวากันต่อแล้ว โดยการเดินทางครั้งนี้เราจะนั่งรถสองแถวสายแม่กลอง – โรงเจอัมพวา จุดจอดรถอยู่ตรงข้ามกับธนาคารธนชาติ พอเราเดินไปถึงจะเห็นสองแถวสีน้ำเงินจอดเรียงรายกันอยู่ ให้เลือกขึ้นป้ายที่มีคำว่าอัมพวาหรือโรงเจอัมพวา ซึ่งใครที่ไปตลาดน้ำอัมพวาจะต้องลงก่อนป้ายสุดท้าย 1 ป้าย แต่ถ้าใครไม่รู้ทาง แนะนำให้บอกพี่คนขับรถล่วงหน้าว่าเราจะลงตลาดน้ำอัมพวา ส่วนเวลาเดินรถสองแถวมีเริ่มตั้งแต่ประมาณ 06.00 – 17.30 น. และราคาค่าโดยสารก็ 10 บาทเท่านั้น
นั่งรถสองแถวจากตลาดแม่กลองมาจอดที่หน้าตลาดน้ำอัมพวา ตลาดเก่าริมน้ำที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิก โดยตลาดน้ำจะคึกคักมากสุดในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ มีร้านมากมายทั้งของกินของใช้ รวมถึงเสน่ห์ของตลาดน้ำที่จะมีของขายตามเรือต่างๆ แต่ทริปนี้บรรยากาศกลับตรงกันข้ามกับความคึกคัก เพราะเรามาเที่ยวในวันธรรมดา ดังนั้นตลาดน้ำอัมพวาจะเงียบเหงา คนไม่พลุกพล่านเหมือนกับสองตลาดที่เราไปมาก่อนหน้านี้ แต่ก็มีความชิลล์ สบายๆ ส่วนร้านในตลาดก็มีเปิดอยู่บ้าง อย่างร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านของฝาก
และมาต่อกันอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เราจะพาไปก็คือการนั่งเรือไปไหว้ท้าวเวสสุรรณที่วัดจุฬามณี โดยเราสามารถนั่งเรือจากตลาดน้ำอัมพวาไปลงที่ท่าเรือของวัดจุฬามณีได้เลย เรียกได้ว่าทั้งสะดวกและไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด ส่วนเรือก็สามารถหาจ้างได้จากในตลาดน้ำอัมพวา เรทราคาถ้าไปแบบจอยเรือราคาอยู่ที่ 50 – 60 บาท/คน แต่ถ้าต้องการเหมาราคาอยู่ที่ 400 – 500 บาท/ลำ
บรรยากาศชิลล์ๆ ระหว่างล่องเรือไปตามลำน้ำ เต็มไปด้วยเสน่ห์ความคลาสสิกของบ้านไม้ริมน้ำ
นั่งเรือมาไม่ถึง 15 นาที่ก็เจอท่าเรือของวัดจุฬามณีแล้ว ระหว่างที่เราใช้เวลาในวัด เรือก็จะจอดรอและส่งเรากลับไปที่ตลาดน้ำอัมพวา
มาถึง วัดจุฬามณี ก็ต้องมาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ โดยเชื่อกันว่าใครที่ได้กราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณจะได้รับโชคลาภ มีเงินทองไหลมาเทมา รวมถึงช่วยขจัดอุปสรรคต่างๆ แน่นอนว่าสายมูอย่างเราก็ต้องมาเติมแต้มบุญกันหน่อย วิธีการไหว้ท้าวเวสสุวรรณก็คือมีธูป 9 ดอกและดอกกุหลาบแดง 9 ดอก ซึ่งเครื่องไหว้นี้สามารถซื้อได้จากภายในวัด หลังจากนั้นก็ไปหน้าท้าวเวสสุวรรณ ตั้งจิตอธิษฐานและสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ ทำเสร็จสิ้นแล้วก็รอความปังได้เลย
สายมูตัวจริงห้ามพลาดล้วงไข่ดูตัวเลข ใครได้เลขไหนมาก็อย่าลืมจดเก็บไว้ด้วยนะ
ล้วงไข่ไม่พอ ธูปเศรษฐีก็มีเหมือนกัน
นอกจากท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณียังมีสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่เนื่องให้ได้กราบไหว้สักการะกัน สำหรับหลวงปู่เนื่องนั้นเป็นเกจิอาจารย์ด้านการแคล้วคลาดปลอดภัย มีลูกศิษย์มากมายที่ให้ความเคารพนับถือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในเจ้าอาวาสของวัดจุฬามณี ใครที่มาวัดจุฬามณีก็อย่าลืมมากราบไหว้หลวงปู่เนื่องด้วยล่ะ
เที่ยวมาตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ได้เวลากลับกรุงเทพฯ กันแล้ว โดยเราขึ้นสองแถวจากตลาดน้ำอัมพวา นั่งกลับมาลงที่ตลาดแม่กลอง และเดินมาขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสมุทรสงคราม ถือเป็นท่ารถตู้ที่ใหญ่เลย มีทั้งรถตู้และมินิบัส อีกทั้งยังมีหลายสายให้เลือกทั้งสายใต้เก่า – สายใต้ใหม่, หมอชิต – จตุจักร, เอกมัย – สุขุมวิท, นครปฐม ส่วนเรานั่งรถตู้ไปลงหมอชิตก็ราคา 100 บาท
ทั้งหมดนี้คือ One Day Trip | นั่งรถไฟ 10 บาท เที่ยวตลาดสมุทรสงคราม พานั่งเรือไปวัดจุฬามณี บอกเลยว่าจัดเต็มครบทั้ง 3 ตลาดก็คือ ตลาดมหาชัย ตลาดแม่กลองและตลาดน้ำอัมพวา สามารถเที่ยวตามง่ายๆ ด้วยรถสาธารณะ แถมทริปนี้เรายังพาเที่ยวแบบละเอียดไม่ต้องกลัวหลงทางและมีของกินให้อิ่มท้องตลอด นอกจากนี้ยังเป็นทริปที่สามารถเที่ยวได้ทุกวัน จะวันธรรมดาหรือวันเสาร์ – อาทิตย์ก็สามารถสนุกได้หมด เอาเป็นว่ารีบหาวันว่างแล้วมาเที่ยวตามทริปนี้กันเลย
รวมค่าใช้จ่ายตลอด One Day Trip | นั่งรถไฟ 10 บาท เที่ยวตลาดสมุทรสงคราม พานั่งเรือไปวัดจุฬามณี
-ค่าโดยสารจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ – สถานีรถไฟมหาชัย คนละ 10 บาท
-ค่าของกินตลาดมหาชัย 85 บาท
-ค่าเรือข้ามฟากจากท่ามหาชัย – ท่าฉลอง คนละ 3 บาท
-ค่าโดยสารจากสถานีรถไฟบ้านแหลม – สถานีรถไฟแม่กลอง คนละ 10 บาท
-ค่าของกินตลาดแม่กลอง 60 บาท
-ค่าอาหารร้านข้าวมันไก่ไทยสวัสดี 170 บาท (หาร 3 ตกคนละ 57 บาท)
-ค่ารถสองแถวจากแม่กลอง – อัมพวา คนละ 10 บาท
-ค่าเหมาเรือไปวัดจุฬามณี 400 บาท (หาร 3 ตกคนละ 133 บาท)
-ค่าทำบุญพุ่มกุหลาบ พร้อมธูปเทียนที่วัดจุฬามณี 50 บาท
-ค่ารถสองแถวจากอัมพวา – แม่กลอง คนละ 10 บาท
-ค่ารถตู้กลับจากสมุทราสงคราม – หมอชิต (จัตุจักร) คนละ 100 บาท
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 528 บาท/คน
**ราคาไม่รวมค่าของฝากต่างๆ**
เชื่อว่า นั่งรถไฟ 10 บาท เที่ยวตลาดสมุทรสงคราม พานั่งเรือไปวัดจุฬามณี จะทำให้ทุกคนสนุกและอยากเที่ยวตาม บอกเลยว่าต้องลองสักครั้ง ส่วนใครชอบเที่ยวแนวตลาดที่ของกินเยอะๆ ก็ลองมาดู เที่ยว 4 ตลาดน้ำเขตตลิ่งชัน ด้วยรถบัสไฟฟ้าฟรีของกทม. แบบสบายๆ วันเสาร์อาทิตย์ ส่วนใครชอบนั่งรถไฟเที่ยวชิลล์ๆ ก็ลองมาเที่ยวตาม One Day Trip เที่ยวนครปฐม นั่งรถไฟฟีดเดอร์ไหว้องค์พระฯ งบคนละไม่ถึง 500 หรือใครชอบวันเดย์ทริปปั่นจักรยาน ดื่มด่ำธรรมชาติก็ลอง One Day Trip บางกะเจ้า ไปด้วยรถไฟฟ้า พาเติมความเฟรชรัวๆ!