ทริปสั้นๆ | 2 วัน 1 คืน กิน เที่ยว พักผ่อนนอนมัลดีฟส์กาญจนบุรีงบไม่เกิน 2,500 บาทต่อคน

กาญจนบุรี เมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนมากี่ทีก็เที่ยวไม่เคยครบสักที เพราะทุกเขตทุกอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี จะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ซ่อนอยู่ให้เราได้ตามไปปักหมุดเช็คอินกันแบบไม่มีซ้ำเลย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ น้ำตก สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ กาญจนบุรีก็มีให้เที่ยวครบ!! และในทริปนี้เราจะพาคุณไปเช็คอิน กิน เที่ยว ที่ไหนกันบ้างรีบเก็บกระเป๋าแล้วตามเรามาเลย…

---

DAY: 1

เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ทริปนี้เราไม่ได้บินไปไหนไกล แต่เราเลือกใช้บริการรถเช่าของ Budget Thailand ที่มาพร้อมกับรถหลากหลายแบรนด์ให้เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ความต้องการ และทริปนี้เราก็เลือกรถ SUV เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ถ้าพร้อมแล้วสตาร์ทรถมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองกาญจนบุรีกันเลย…

จากกรุงเทพขับรถชิลล์แค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงจุดเช็คอินแรกที่ มีนาคาเฟ่ คาเฟ่สุดชิลล์กลางทุ่งนาหลังวัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นสะพานไม้ที่มาพร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดเก๋ไก๋กลางทุ่งนา มองเห็นฉากหลังเป็นวิววัดถ้ำเสือบนยอดเขา มีนาคาเฟ่ ร้านเปิดเวลา 08.30 – 19.00 น. โทร.085 681 8187

เต็มอิ่มไปกับอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีเมนูแนะนำเป็น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ออนเซ็น 50 บาท ข้าวไข่เจียว 40 บาท ข้าวกะเพราหมูกรอบ 50 บาท พิซซ่า 159 บาท และกาแฟมีนา 60 บาท จัดเต็มขนาดนี้ค่าอาหารมื้อนี้แค่ 359 บาท

กินข้าวอิ่มแล้วก็ขับรถไปต่อที่ วัดถ้ำเสือ ที่อยู่ห่างจากตัวร้านไม่ถึงนาที ก็ได้ชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด นอกจากนี้ด้านบนของตัววัดยังเป็นจุดชมวิวสวยที่สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาได้แบบสุดสายตากันเลย

บริเวณด้านล่างจะมีบริการรถรางไฟฟ้าให้บริการคนละ 15 บาท หรือถ้าใครอยากออกกำลังกายเรียกเหงื่อ ก็เดินขึ้นบันไดพิชิตความสูงร้อยกว่าขั้นกันได้เลย

ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ตัวองค์พระประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์

นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่างๆ แต่ละชั้นจะประดิษฐานพระพุทธรูป จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาติที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียให้เราได้กราบไหว้ขอพรความเป็นสิริมงคลในชีวิต

ไหว้พระขอพรจนอิ่มใจ ก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีสวัสดิ์ เที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติกันที่ จุดชมวิวสันเขื่อนศรีนครินทร์ ไฮไลท์ของที่นี่คือแนวสันเขื่อนที่คุณสามารถชมวิวของทั้งสองฝั่งทะเลสาบได้อย่างสวยงาม

มาถึงแล้วก็หามุมถ่ายรูปเก๋ๆ เพิ่มกันหน่อย

และอย่างที่เกริ่นไปช่วงแรกว่าทริปนี้เราใช้บริการรถเช่า Budget Thailand ที่แสนสะดวกสบาย รถใหม่ ภายในห้องโดยสารสะอาดมาก นั่งสบายตลอดการเลยทางกันไปเลย

หามุมโพสต์ท่ากันจนเมื่อยก็ขอเข้าที่พัก ไปพักผ่อนให้หายเหนื่อยกับการเดินทาง แล้วไปเช็คอิน นอนฟินกันที่ อะสิมุตติ์ ศรีสวัสดิ์ แพสไตล์มัลดีฟส์กลางน้ำทะเลสาบศรีนครินทร์ บรรยากาศสุดไฮด์อเวย์ ที่คนรักความเป็นส่วนตัวจะต้องหลักรักที่นี่!! อะสิมุตติ์ ศรีสวัสดิ์ โทร.083 001 9241, 089 926 1911

อะสิมุตติ์ ศรีสวัสดิ์ เป็นที่พักเปิดใหม่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบศรีนครินทร์ ออกแบบและดีไซน์ห้องพักในสไตล์บูติกรีสอร์ท เน้นการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว ภายในห้องพักกว้างขวาง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดีทีเดียว

และที่นี่ก็ไม่ได้มีดีแค่ที่พักสวยแต่ยังมีกิจกรรมสุดโรแมนติกสำหรับคู่รัก ที่อยากหามุมชวนแฟนมาสวีทไปกับการล่องเรือชมวิวพร้อมจิบไวน์กันแบบฉ่ำใจ

ล่องเรือชมวิวพระอาทิตย์ตก

หรือจะเป็นกิจกรรมล่องแพเปียกชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ที่ได้ทั้งความสนุกสนานและความโรแมนติกในเวลาเดียวกัน (กิจกรรมล่องแพเปียก 500 บาท รับเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน)

ก่อนจะปิดท้ายความหวานด้วยดินเนอร์ที่แสนส่วนตัวในค่ำคืนนี้

อ่านรีวิวที่พักได้ที่นี่: อะสิมุตติ์ ศรีสวัสดิ์

---

DAY: 2

วันนี้เราไม่ได้รีบร้อนไปไหนเลยใช้เวลาช่วงเช้ากันในรีสอร์ทอย่างเต็มที่ ตื่นเช้ามารับประทานอาหารที่ทางรีสอร์ทได้จัดเตรียมไว้ให้เป็นชุด American Breakfast กินข้าวเช้าแบบเพลินๆ ท่ามกลางอากาศที่แสนบริสุทธิ์ สูดลมหายใจได้เต็มปอดกันเลย

และว่ายน้ำออกกำลังกายกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนแพ ที่มาพร้อมกับความฟินระดับเต็ม 10 ได้ชมวิวสวยๆ ของขุนเขาและสายน้ำของวิวทะเลสาบกันได้อย่างงดงาม และที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาที่พักสวยๆ แบบนี้แล้วก็ต้องมีชุดว่ายน้ำสวยๆ จาก Coralist Swimwear คอลเลกชั่น Afrikan Capsule ชุดว่ายน้ำที่ทำให้เราใส่แล้วมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากได้ชุดว่ายน้ำสวยๆ แบบนี้ สามารถสั่งซื้อได้ทาง www.coralistswimwear.com รับส่วนลด 15% (เพียงใส่โค้ด CRStripgether) หรือสามารถเข้าไปดูชุดสวยๆ ได้ทาง Facebook: Coralist Swimwear และ IG: Coralist.Swimwear

ช่วงสายๆ ก็เตรียมเก็บสัมภาระเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก แล้วขับรถมุ่งหน้าไปฟินกันต่อที่ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ บ่อพลอย สวนสัตว์เปิดแห่งเดียวในจังหวัดกาญจนบุรี ที่มาพร้อมกับความน่ารักและตื่นเต้น ของสัตว์นานาชนิดกันเลย สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ บ่อพลอย เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด เวลา 9.00 น. – 17.00 น. ค่าเข้า:ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน โทร.034 678 225, 086 300 0667

ไฮไลท์ก็ต้องยกให้เจ้ายีราฟและม้าลาย ที่มาต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแบบใกล้ชิดสุดๆ แถมค่าเข้าชมก็ไม่แพง แค่คนละ 200 บาท การเข้าไปชมสวนสัตว์จะมีรถนำเที่ยวเป็นรถบัสคันเล็กๆ พาเข้าไปด้านใน โดยเราสามารถนั่งรถและให้อาหารสัตว์ได้ มีไกด์และคนขับที่คอยอธิบายจุดต่างๆ ให้เราฟังตลอดเส้นทาง

หากใครที่อยากถ่ายรูปกับสัตว์แบบใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวก็มีรถมินิทรัคลายม้าลาย สไตล์ซาฟารีแบบนี้ให้บริการเช่นกันในราคาคนละ 1,000 บาท (หากสนใจต้องจองผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊กล่วงหน้าเท่านั้น) 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างการให้นมลูกเสือ หมูแคระ กระต่าย และสัตว์นานาชนิดๆ กันเลย

ชื่นชมความน่ารักของสัตว์นานาชนิดกันไปแล้ว ก็เตรียมย้ายที่ปักหมุดไปเช็คอินกันต่อที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดเลยเมื่อมาถึงกาญจนบุรี ต้องมาเช็คอินสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง…

นอกจากเรื่องราวประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแล้ว สะพานข้ามแม่น้ำแควยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่รับรองว่าทริปนี้เราต้องได้รูปสวยๆ ไว้อัพลงโซเชียลกันเพียบ!!

เดินเล่นกันจนเหนื่อย ก็ขอวาร์ปไปอิ่มอร่อยที่ร้านดังแห่งกาญจนบุรีกันที่ ครัวชุกโดน ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำแม่กลองที่มาพร้อมกับอาหารสไตล์บ้านๆ ที่มีให้เลือกอร่อยกันเพียบ ครัวชุกโดน เปิดทุกวันเวลา 10.30 – 22.30 น. โทร.097 446 9464, 092 419 6369

แนะนำเป็น ยำตะไคร้กุ้งสด 120 บาท แกงคั่วหอยขม 120 บาท หอยกระทะจานร้อน 120 บาท ปลากระพงทอดราดน้ำปลา 250 บาท และต้มยำปลาคังน้ำใส 200 บาท และมื้อนี้ก็จัดแบบเต็มอิ่นกันในราคา 880 บาท

หอยกระทะจานร้อน หน้าตาหน้ากินมาก เสิร์ฟมาในกระทะร้อนพร้อมกับไข่ฟูๆ 

แกงคั่วหอยขม รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องสุดๆ อร่อยต้องลอง!!

2 วัน 1 คืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว การมาพักผ่อนที่กาญจนบุรีก็ทำให้เราได้รีชาร์ทพลังงานดีๆ กันจนเต็มเปี่ยมทีเดียว แถมการเดินทางยังสะดวกสบายอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ได้สัมผัสอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำกันแล้ว เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาทริปเที่ยวสั้นๆ ในช่วงวันหยุด กาญจนบุรีมาแค่ 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวและพักผ่อนได้คุ้มสุดๆ กันอย่างแน่นอน

---

สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน
(ไม่รวมค่ารถและค่าน้ำมัน)
ค่าอาหารร้านมีนาคาเฟ่ = 359 บาท
ค่ารถรางไฟฟ้าวัดถ้ำเสือ 15×2 = 30 บาท
ค่าแพขนานยนต์นำรถข้ามฝาก = 60 บาท
ค่าที่พักอะสิมุตติ์ ศรีสวัสดิ์ (รวมอาหารเช้าและเย็น) = 2,960 บาท
ค่าเข้าสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ บ่อพลอย 200×2 = 400 บาท
ค่าอาหารให้สัตว์ = 150 บาท
ค่าอาหารครัวชุกโดน = 880 บาท
รวมทั้งหมด 4,839 บาท
หารสองคน/คนละไม่เกิน 2,420 บาท

 

---