tripgether.com

เที่ยวเชียงใหม่รอบเมือง แว๊นซ์ขึ้นดอย นอนดูดาว เก็บความสุขแบบฟินๆ 3 วัน 2 คืน

63,930 ครั้ง
28 ส.ค. 2560

เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มากมายไปด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขับรถอยู่กลางเมืองแต่สามารถมองเห็นภูเขาสวยๆ บนเขาได้แบบชัดเจน และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มากมายด้วยวัฒนธรรม ร้านคาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายอีกด้วย


DAY: 1 วันแรกเราเดินทางโดยสารเครื่องบินรอบเช้า (ในราคาโปรโมชั่น 990) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง เรามาถึงเชียงใหม่ในช่วงสายๆ หารถแดงเข้านิมมานเพื่อเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่พักของเราในคืนนี้ที่ “บ้านเส-ลา” ที่พักโฮสเทลบรรยากาศสบายๆ สไตล์ล้านนา ที่รีโรเวทบ้านเก่าให้เป็นที่พักชิคๆ ตั้งอยู่ในนิมมานซอย 5 เพื่อรอเช็คอินในช่วงบ่ายๆ และระหว่างนี้เราก็หาเช่ามอไซต์แล้วเที่ยวให้ทั่วกันไปก่อน…

หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่บ้านเส-ลาเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มจะเดินทางสะดวก เลยเดินถ่ายรูปเล่นเพลินๆ ย่านนิมมาน และแวะหาร้านเช็คอิน กินข้าวกันให้อิ่มๆ สักมื้อกันที่ร้านไก่ย่างเชิงดอย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไกด์บุคหลายเล่มแนะนำ

จากย่านนิมมานเราแวะไปชิลล์กันต่อที่ซอยวัดอุโมงค์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านร้านคาเฟ่ฮิปๆ ดังๆ 

นั่งชิลล์กันอยู่พักใหญ่ เราก็แว๊นซ์มอไซต์ไปกันต่อที่ บ้านข้างวัด ซึ่งเป็นเหมือนอาณืทสเปซสำหรับคนที่ชอบงานศิลปะ และยังมีร้านของของฝาก ของที่ระลึกทำมือให้เราได้ซื้อกลับบ้านอีกด้วย

เสพความสุขกับงานแฮนด์เมดกันจนกระเป๋าเริ่มจะเบา จนต้องไปหาที่กดเงินกันเพิ่ม เราแว๊นซ์มอไซต์ผ่านหลัง มช. เข้าไปยังบริเวณอ่างแก้ว ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว ที่หลายๆ คนนิยมมาเช็คอิน และยังเป็นหนึ่งในซีนหนังดังเรื่องเพื่อนสนิทอีกด้วย…

ถ่ายรูปกันจนเพลิน ก็เดินทางกันต่อโดยขับมอเตอร์ไซต์ออกมาทางหน้า มช. เพื่อเตรียมขึ้นดอยสุเทพกัน ซึ่งจากตีนดอยไปถึงด้านบนจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีด้วยกัน ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวให้เราได้นั่งพักอีกด้วย

สำหรับพระธาตุดอยสุเทพ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวล้านนา ชาวเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน และเป็นพระธาตุประจำปีมะแมอีกด้วย

เราอยู่ชมวิวอยู่บนพระธาตุดอยสุเทพจนกันเย็นๆ จึงกลับเข้าที่พักเพื่อเช็คอินและเก็บกระเป๋าเข้าห้องพัก สนใจห้องพักติดต่อได้ที่เบอร์ 053 894 229 ราคาห้องพักประมาณ 1,300 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง)

สำหรับอาหารเย็นวันนี้เราเดินหาของกินกันในซอยนิมมาน เรียกว่ากินกันเรื่อยๆ จนอิ่มแล้วก็กลับมานอน


Day: 2 วันนี้เราตื่นเช้ามากินชา จิบกาแฟในที่พัก ก่อนจะเตรียมเช็คเอ้าท์ เพื่อเดินทางขึ้นดอยกัน และสำหรับการเดินทางของเราในวันนี้จะมุ่งหน้าสู่เชียงดาว แต่ก่อนที่จะไปเชียงดาวเราแวะไปเที่ยวที่ม่อนแจ่มกันก่อน… จากตัวเมืองไปยังม่อนแจ่มจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

มาถึงม่อนแจ่มก็แวะมาหาของกินกันก่อนเลย และได้นั่งชิลล์ชมวิวสวยๆ ไปด้วย

นอกจากวิวสวยๆ ม่อนแจ่มยังมีดอกไม้สวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย

เราอยู่ที่ม่อนแจ่มกันสักพักก็เดินทางกันต่อเมื่อให้ไปถึงเชียงดาวกันในช่วงบ่าย ซึ่งจากม่อนแจ่มไปเชียงดาวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งระหว่างทางจะมีสถานท่ีท่องเที่ยวให้เราได้แวะระหว่างทางอย่างถ้ำเชียงดาว 

เราใช้เวลาเดินชมถ้ำเชียงดาวกันไม่นาน ก็เดินทางกันต่อเมื่อไปยังที่พักของเราที่หมู่บ้านนาเลาเชียงดาว ซึ่งจากถ้ำเชียงดาวจะใช้เวลาเดินทางต่อประมาณ 30 นาที ซึ่งก่อนจะขึ้นไปยังหมู่บ้านนาเลาเชียงดาว เราจะต้องผ่านด่านทางเข้าอุทยาน จะต้องเสียค่าเข้าคนละ 30 บาท และต้องลงชื่อที่นี่ด้วย… เสียค่าเข้ากันเรียบร้อยแล้ว ก็แว๊นซ์มอไซต์ขึ้นเขากันต่อ จนมาถึงบริเวณหมู่บ้านนาเลาเชียงดาว แต่ที่พักของเราในคืนนี้จะอยู่ปลายเขาสุดท้ายของดอยเลย ต้องขับรถกันไปต่อจนมาถึงที่พักของเรากันที่บ้านหมอกแสงจันทร์

บรรยากาศภายรอบๆ ที่พัก แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นจุดชมดอยหลวงเชียงดาวที่ใกล้ที่สุดอีกด้วย สำหรับราคาที่พักจะอยู่ที่คนละ 500 บาท ค่าค่าที่พักพร้อมอาหารเช้า และอาหารเย็น สนใจห้องพักโทร.096 532 2009, 098 764 5871

เราอิ่มเอมกับบรรยากาศของเชียงดาวกันจนจบวัน ก่อนที่ลาคืนนี้ไปด้วยเสียงธรรมชาติและดาวสวยๆ ยามค่ำคืน


DAY: 3 วันนี้เราตื่นเช้ามาชมบรรยากาศสวยๆ พร้อมกับรับประทานอาหารเช้ากันที่ระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งชาวบ้านจะยกมาเสิร์ฟช่วงประมาณ 7.00 โมงเช้า

รับประทานอาหารกันเสร็จ ก็เตรียมอาบน้ำมาถ่ายรูปเล่นที่ระเบียงใหญ่ของบ้านพัก

ถ่ายรูปกันจนเมมแทบจะเต็ม เราก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น ซึ่งระหว่างทางเราแวะกินอาหารเที่ยงกันที่ร้านกาแฟฮิมน้ำ ซึ่งอยู่ริมทางระหว่างเชียงดาว

บรรยากาศของร้านจะเป้นบ้านไม้เก่า ที่ตั้งอยู่ริมน้ำปิง มีซุ้มอาหารให้เราได้นั่งชิลล์ๆ

หลังจากกินอาหารกันเรียบร้อยแล้วเราก็มุ่งหน้าเตรียมกลับเข้าตัวเมือง เพื่อนำรถไปคืน แต่ระหว่างเจอศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว เลยขอแวะเข้าไปชมกันสักหน่อย

สำหรับที่นี่จะเปิดเป็นรอบการแสดงเริ่มตั้งแต่ 08.00 น.เป็นต้นไป

รูปเราเลยเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปเล่น แล้วก็เตรียมขับรถกลับตัวเมืองกัน

หลังจากคืนรถเราก็เตรียมตัวไปสนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นนี้… จะว่าไปแล้วการเดินทางในปัจจุบันก็ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น เพราะถึงแม้เชียงใหม่จะตั้งอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ กลายร้อยกิโล แต่เราก็สามารถเที่ยวได้เหมือนเป็นเมืองพักผ่อนใกล้ๆ กรุงเทพฯ ยังไงยังงั้น ใครที่กำลังอยากพักผ่อนจริงๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ และวัฒนธรรมเนิบช้าเห็นที ต้องพลาดแปะลิสต์ทริปเชียงใหม่ไว้ในแพลนของคุณแล้วละ

 

ทริปเก็ทเตอร์


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ