tripgether.com

จันทบุรี – ระยอง 2 วัน 1 คืน พักผ่อนชิลล์ๆ ชมวิวทะเล หลงเสน่ห์ชุมชนคลาสสิก

41,974 ครั้ง
19 ก.พ. 2561

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศสบายๆ ริมน้ำ ไม่ไกลจากกรุงเทพ เราขอแนะนำจังหวัด จันทบุรี-ระยอง ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่อาหารทะเลถูกและสดเท่านั้นแต่ยังมีจุดเช็คอินอื่นๆ ที่น่าสนใจพร้อมให้นักท่องเที่ยวมาปักหมุด ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่กำลังหาสถานที่โรแมนติกไปฮันนีมูนหรือจะก๊วนเพื่อนที่พร้อมจะมา กิน ช้อป เที่ยว ถ่ายรูปเก๋ๆ อวดลงโซเชี่ยล จะแบบไหน จันทบุรี-ระยอง ก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง 


Day 1 l กรุงเทพ – จันทบุรี 

จากกรุงเทพฯ เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ขับกันไปชิลล์ๆ แวะปั้มน้ำมันเข้าห้องน้ำ รับประทานอาหารกันระหว่างทาง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็จะเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดจันทบุรี พอเวลาประมาณบ่ายโมงเราก็จะมาถึงจุดเช็คอินแรกที่ต้องถูกใจสายกินแน่นอนกับ ย่านชุมชนเก่าจันทบูร ซึ่งเต็มไปด้วยของกินหลากหลายให้เลือกและที่สำคัญคือกลิ่นอายสไตล์วินเทจของย่านนี้ที่เป็นเอกลักษณ์จนอดที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้ 

ร้านเด็ดของย่านชุมชนเก่าจันทบูรต้องห้ามพลาดเลยคือร้าน เจ๊อี๊ด ริมน้ำ ที่มีก๋วยเตี๋ยวที่เสิร์ฟพร้อมซีฟู้ดแน่นจัดเต็มจนต้องขอเบิ้ลอีกชาม

เมื่อเดินเล่น แชะภาพกันจนหนำใจแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พัก โดยที่พักในจันทบุรีที่เราเลือกในทริปครั้งนี้คือ โฮมสเตย์บ้านสวนริมน้ำ จันทบุรี ออกจากตัวเมืองจันทบุรีใช้เวลาประมาณ 40 นาที ขับมาตามทางเรื่อยๆ จะเห็นป้ายที่พักจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ 

โฮมสเตย์บ้านสวนริมน้ำ จันทบุรี เป็นโฮมสเตย์ริมน้ำ บรรยากาศสบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ แค่ขับรถเข้ามาภายในบริเวณที่พักก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลเบาๆ จากลำธารที่อยู่ติดกับตัวบ้านพัก หากยังไม่เหนื่อยเกินไป ก็มาเล่นน้ำ เก็บภาพสวยๆ ในบรรยากาศสบายๆ ริมลำธาร ซึ่งความดีงามของที่นี่คือมีน้ำไหลผ่านลำธารตลอดไม่เคยแห้ง ทำให้ได้บรรยากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาช่วงไหนก็ฟิน

เช็คอิน เก็บของให้เรียบร้อย ก็ได้เวลาสำรวจที่พักกัน ซึ่งโฮมสเตย์บ้านสวนริมน้ำเป็นที่พักสไตล์บ้านๆ อย่างเป็นกันเอง แต่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ราคาท่านละ 800 รวมอาหาร 2 มื้อ โดยมื้อเย็นจะเป็นบุฟเฟต์อาหารไทยพื้นบ้านเช่น น้ำพริกปลาทู แกงหมูชะมวง ต้มยำไก่กระวาน ได้ลองแล้วต้องติดใจในรสชาติแบบพื้นบ้านแท้ๆ 


Day 2 l จันทบุรี – ระยอง

เริ่มต้นวันใหม่กับบรรยากาศเย็นสบายในตอนเช้าจนแทบไม่อยากลุกออกจากเตียงแต่กลิ่นหอมของข้าวต้มหมูเห็ดหอมที่ทางโฮมสเตย์นำมาเสิร์ฟทำให้ต้องลุกขึ้นมาทานพร้อมกับบรรยากาศแสนเย็นสบาย ริมลำธาร ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่แสนจะสุขใจ พร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง

เมื่อขับรถออกจากที่พักมาไม่ไกลเราก็ได้เจอกับร้านคาเฟ่ชิคๆ สไตล์โมเดิร์น แสนสะดุดตาจนต้องขอแวะหาอะไรดื่มกันที่ For-Rest Coffee & Eatery มีให้บริการทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหาร

หากใครรู้สึกหิวสามารถสั่งอาหารกินกันก่อนที่จะเดินทางกันต่อ ซึ่งในส่วนของอาหารก็มีเมนูให้เลือกหลากหลายเช่น ข้าวหมูผัดพริกสด ข้าวหมูผัดขี้เมา ต้มยำไก่กระวาน เป็นต้น หรือจะสั่งแค่เครื่องดื่มอย่าง ชาเขียวมะนาว เพื่อเพิ่มความสดชื่นก่อนออกเดินทาง

อิ่มกันแล้วก็ขับรถไปต่อยังจุดเช็คอินที่แรกของวันที่ 2 กันเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็จะมาถึง จุดชมวิวทะเลเจดีย์บ้านหัวแหลม เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวเนินนางพญา โดยเราจะเข้าไปที่ จุดชมวิวทะเลเจดีย์บ้านหัวแหลม ก่อนแล้วขากลับจะแวะชมวิวในมุมกว้างๆ สวยๆ ที่จุดชมวิวเนินนางพญา

ไฮไลท์ จุดชมวิวทะเลเจดีย์บ้านหัวแหลม อยู่ที่สะพานไม้พาดผ่านโขดหินยื่นยาวออกไปในทะเลระยะทาง 50 เมตรสู่ที่สักการะเจดีย์ โดยระหว่างทางนั้นสามารถหามุมเหมาะๆ ถ่ายรูปสวยๆ หรือจะแค่ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่มีทะเลรายล้อมแสนโรแมนติกแต่ฟินได้เหมือนกัน

เสร็จจาก จุดชมวิวทะเลเจดีย์บ้านหัวแหลม แล้วเราก็เตรียมมุ่งหน้าสู่ระยองโดยขากลับจะผ่าน จุดชมวิวเนินนางพญา ซึ่งห่างจาก จุดชมวิวทะเลเจดีย์บ้านหัวแหลม เพียงแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถแวะไปชมวิวทะเลในมุมสูงที่มองเห็นทะเลไกลสุดลุกหูลูกตา

เราเดินทางจากออกจากจันทบุรีใช้เวลาในการขับรถประมาณชั่วโมงครึ่งก็จะเข้าสู่ตัวจังหวัดระยอง โดยจุดเช็คอินต่อไปที่เราจะไปสัมผัสคือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า จุดเช็คอินสุดฮิตประจำจังหวัดระยองที่พลาดไม่ได้  

สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้ามีค่าเข้าคนละ 40 บาท โดยเฉพาะใครที่ชอบเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ต้องตกหลุมรักไปกับการเดินบนสะพานไม้ริมทะเล ทอดผ่านโขดหินน้อยใหญ่และทุ่งหญ้าสีทองสวยๆ ปลิวไสวไปกับลมเย็นๆ สุดฟิน

เมื่อได้มาจังหวัดที่มีทะเลทั้งทีขอแวะไปเดินย่ำทรายขาวๆ ชิลล์ๆ ริมทะเลสักหน่อยที่ หาดแม่รำพึง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานเขาแหลมหญ้า ก่อนที่จะไปหาอะไรทานกัน 

เดินเล่นบนหาดทรายจนท้องเริ่มร้องก็ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้วเราขับรถมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองระยอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึงถนนยมจินดา ถนนสายเก่าแก่สุดวินเทจของเมืองระยองที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร ไว้มากมาย ซึ่งในวันนี้เราขอฝากท้องไว้กับ ร้าน ราย็อง  ที่ถือว่าเป็นร้านในตำนานของถนนยมจินดาเลยก็ว่าได้ 

 

ร้าน ราย็อง เป็นร้านโรตีเก่าที่อยู่คู่กับถนนยมจินดามานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ยังเป็นรถเข็นจนได้ขยายเป็นอาคารที่สามารถรองรับลูกค้าได้มากขึ้นแต่ยังคงความคลาสสิกไว้ไม่เปลี่ยน และเมนูก็เพิ่มขึ้น ไม่ใช่มีแค่โรตี ยังมีเครื่องดื่ม อาหารแบบฟิวชั่นและไทยโบราณ ไว้ให้บริการ เช่น ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ สลัดทูน่า โรตีแกงเขียวหวาน ชาเขียวถั่วแดง รสชาิตถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ 

หนังท้องตึงแล้วก็มาเดินย่อยกันบนถนนยมจิดาสำหรับสายฮิปที่ชอบความคลาสสิกต้องห้ามพลาดเพราะว่าร้านค้าต่างๆ ยังคงสไตล์วินเทจ กลิ่นอายคลาสสิกไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเสน่ห์ที่ต้องมาสัมผัสให้ได้เมื่อมาระยอง 

หลังจากเดินย่อย ชมความคลาสสิก ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันเรียบร้อย ก็ได้เวลากลับกรุงเทพฯ หลังจากชาร์ตแบตในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศสบายๆ ของธรรมชาติและความคลาสสิกของเมืองที่จะทำให้ประทับใจจนต้องปักทริป จันทบุรี-ระยอง เอาไว้กลับมาอีกครั้ง


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ