tripgether.com

เที่ยว หลีเป๊ะ ช่วงหน้าฝน !! 3 วัน 2 คืน ให้พอสุขใจ

12,804 ครั้ง
27 มี.ค. 2560


พูดถึงเรื่องหน้าฝน คนคงขึ้นเขากันหมดแล้ว แต่เอาจริง ๆ เราก็ไม่แนะนำอะนะ เพราะสภาพอากาศ การเดินเรือ หรือต่าง ๆ นา ๆ แต่เราต้องไปเพราะจองตั๋วไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว และอีกอย่างคือลืมดู ฤดู เอาแต่ราคาถูก มันอาจจะเป็นความผิดพลาด แต่เราก็ต้องลองดูเนอะ !! ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 7 คน


Day 1 : มาเริ่ม… ออกเดินทางสู่หลีเป๊ะ

เริ่มเดินทางด้วยสายการบิน โลวคอส ปีกแดง ใครๆ ก็รู้ ด้วยราคา 200 บาท ถูกใช่ไหม
ออกเดินทาง ตี5 เดินทาง โดยประมาณ  1 ชั่วโมง 20 นาที (หรืออาจจะเร็วกว่า)

**ก่อนจะเดินทางไปที่เกาะเราได้จอง ตั๋วเรือ ตั๋วรถ เรือดำน้ำ ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ที่ Fanpage FB : เกาะหลีเป๊ะ LIPE Island Thailand (ให้ข้อมูลและบริการดีมากๆ) เมื่อถึงสนามบินหาดใหญ่ นั่งรถตู้จากสนามบินหาดใหญ่ เพื่อไปยัง ท่าเทียบเรือปากบารา จังหวัดสตูล (เราตกลงกับเพื่อนดูแล้วเห็นว่า เหมาจากสนามบินราคาสูงกว่าต่อรถเองไม่เท่าไหร่ เลือกความสะดวก และประหยัดเวลาดีกว่า) ค่ารถ เที่ยวละ200 ไปกลับ ตกคนละ 400 บาทเวลาเดินทางรถตู้ 2 ชั่วโมง โดยประมาณ จากนั้นนั่งเรือจากท่าปากปาราไปยังเกาะหลีเป๊ะอีก ด้วยเรือสปีดโบ๊ท 500/เที่ยว ไปกลับคนละ 1,000บาทเวลานั่งเรือ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลม ถ้าไม่มีคลื่นจะถึงเร็วกว่านี้ (ไม่เคยนั่งเรือไกลขนาดนี้เลย)

** เรือช่วง โลวซีซั่นนี้ จะมีแค่ 1 รอบ บางวันก็มี 2 รอบ คือ 11:00 เวลาไป และ 09:30 เวลากลับ แต่บางวันก็อาจจะเพิ่มรอบ 11.30 น.

แอบถามคนขับเรือเขาบอกหน้ามรสุมคลื่นจะสูงประมาณ 2-4 เมตร เป็นปกติ ใจเราตกไปที่ตาตุ่มเลยค่ะ ตอนขึ้นเรือแรกๆ ยังไม่ออกไปไกลมาก ช่วงที่ยังมีเกาะล้อมรอบ อากาศก็ดูสงบดี แต่พอขับออกไปกลางทะเลสักพัก ฝนเทค่ะ!!! แต่โชคดีมากๆ ที่ไม่มีพายุ และไม่มีคลื่นสูง คนเรือก็ขับเร็วเหลือเกิน
ระหว่างทางมีการถ่ายคนจากเรือลำเล็กกลางทะเลเพราะไปไม่ไหว ตอนนี้แหละค่ะ น่ากลัวมากๆ เพราะเรือแกว่งมากเลย แต่ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ค่ะ (ทั้งหมดนี้ เราใช้เวลา การเดินทาง ราว 5 ชั่วโมง (OMG) 

ถึงท่าเรือเกาะหลีเป๊ะ โดยปกติแล้วที่เกาะจะมีโป๊ะกลางทะเลไว้ส่งลูกค้า แล้วให้ลูกค้าต่อเรือหางยาวของชาวบ้านเข้าที่พัก น่าจะคนละ 50 บาทนะคะ
แต่วันที่เราไป โป๊ะพังค่ะ เรือสปีดโบ้ทต้องค่อยๆขับไปจอดที่ชายหาดจากนั้นเราก็ต่อแท็กซี่(มอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง) เข้าไปที่รีสอร์ท ตกคนละ 50บาท /คน นั่งไม่เกิน 3คนถึงที่พักกันแล้ว …

เราพักกันที่ CASTAWAY RESORT KOH LIPE ตั้งอยู่ที่หาด Sunrise Beach เป็นหาดที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว เจ้าของรีสอร์ทเป็นฝรั่ง พนักส่วนใหญ่พูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ สไตล์ รีสอร์ท แนวชิว ๆ สบาย ๆ เป็นบังกะโลไม้ หลังคามุงจาก เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำเลย เดินขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นห้องนอน เราจองในช่วง โลว์ซีซั่น เป็น Big seaview Bungalow พักได้ 3 คน จองใน agoda ราคาประมาณ 1,600 – 1,700 บาท
ส่วนของเพื่อนจองเป็น Garden view Bungalow ราคาประมาณ 1,200-1,300 บาท พักได้ 2 คน

มองออกไปเห็นทะเลเลย ….  สดชื่น เงียบ มีความสุขมาก และที่สำคัญ เดินออกไปในทะเลไม่กี่เมตร เจอประการัง และปลานีโมด้วยค่ะต้อง ระวังเพราะน้ำไม่ลึก จะเหยียบประการังได้ มีแมงกระพรุน แล้วก็งูทะเลหรือเปล่าไม่แน่ใจ 

ที่พัก ให้คะแนน 9/10 มีแต่พัดลมไม่มีแอร์นะคะ คิดว่าฤดูร้อนน่าจะร้อนพอสมควร แต่บรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ, การบริการ 9/10 ,อาหาร  8/10  อาหารไทยไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ อาหารฝรั่งรสชาติดีทีเดียว
   
วันแรกเมื่อถึงที่พัก ก็พักผ่อน เล่นน้ำหน้าชายหาดตอนเย็น ที่รีสอร์ทมีบริการ เช่าสน็อคเกิล และเรือคายัค (150/1 ชม.) แต่จำกัดเวลาที่ 17.00 น. เกินกว่านั้นไม่อนุญาติให้เช่า และหากคลื่นค่อนข้างแรงก็ไม่อนุญาติเช่นกัน (ฝรั่งค่อนข้างเข้มงวดมากทีเดียว) ยามค่ำคืนเดินถนนคนเดินที่เกาะได้นะคะ แต่เราดันโชคร้าย เพราะดันเป็นช่วงเขาถือศีลอดกัน (เดือนรอมฎอน) ร้านเปิดน้อยมาก

รูปนี้ชายหาดหน้าบ้าน ขนาดเรามาหน้าฝนยังสวยขนาดนี้เลย ไม่อยากคิดถึงหน้าร้อนเลย คงสวยมาก…


DAY 2 : เตรียมตัวไปดำน้ำกันเถอะ จองเรือ เหมาลำ ตก 1,500 บาท/ลำ ไม่เกิน 10คน ไม่รวมค่าอาหาร สำหรับเราว่าถูกนะ ส่วนอาหารเราสั่งร้านอาหารให้เขามาส่งในตอนเช้าค่ะ เราไม่ค่อยได้เก็บรายละเอียดใต้น้ำเท่าไหร่ ดำไปน้ำเข้าจมูกไป

อันนี้เพื่อนเรา นางถอดชูชีพได้เพราะเป็นนักว่ายน้ำ มีความเป็นเงือกน้อย 5555 มาดูความงามใต้ท้องทะเล เล็กๆน้อยๆ

นีโมน้อยน่ารัก

ปลาดาวสองพี่น้อง

อันนี้เพื่อนถ่ายไม่รู้ปลาอะไร 55 คุณลุงที่ขับเรือ เซอร์วิสดีมากค่ะ ทุกครั้งที่ลงดำน้ำ คุณลุงจะลงไปด้วย เพื่อนร่วมทริปคนนึงเป็นคนกลัวทะเลมาก คุณลุงจะเอาห่วงยางแล้วใช้เชือกผูกตัวเอง พาลากไปดูประการัง นังคนนี้สบายเลยค่ะ 5555555555 

คุณลุงจะแนะนำจุดที่ประการังสวยๆ หรือมีปลาชนิดแปลกให้ดูด้วยค่ะ ด้วยความที่มาหน้าฝนจะไม่เจอฝนก็แปลกใช่ไหม 555 ช่วงบ่าย ฝนเทคะ ตกนานด้วย คุณลุงขับเรือเลยแวะพักเรือที่เกาะอะไรไม่แน่ใจ ก็เลยพักทานข้าวบนเรือ สักพักไม่ไหวค่ะ เมามาก เลยลงมาเล่นน้ำฝนกัน เมื่อฝนเริ่มซาเลยตัดสินใจกลับที่พักกัน แต่สำหรับเราก็อิ่มนะ อิ่มน้ำ เฮ้ยไม่ใช่!! อิ่มธรรมชาติ

ตกดึกเดินถนนคนเดิน อะไรเปิดก็กินอันนั้น เพราะว่าทางนี้เขาถือศีลอดกัน ก่อนกลับที่พักดาวเต็มฟ้าไปหมด เพื่อนเราเลยถ่ายรูปมาให้ดู

ลาก่อนพรุ่งนี้ เราก็ต้องกลับแล้วหรือ เศร้า แปบ


DAY3 : กลับกัน ก่อนกลับก็ ตื่นแหกตามาดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินมาหน้ารีสอร์ทได้เลย

ก่อนแดดจะออก

แดดออกแล้ว สวยมาก ๆ

คู่รัก เจ้าของรีสอร์ทกับแฟน ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น โรแมนติกอะ สายๆ ก็วิ่งใส่บาตร หน้าหาดกัน พระท่านก็จะเดินวนผ่านชายหาด

เพื่อนถ่ายนะรูปนี้ นั่งเรือขากลับจะเร็วกว่าขามา เพราะเรื่อแล่นตามคลื่น เรานั่งเรือรอบ 09.30 น. ถึงประมาณ 11.00 น. ก่อนจะกลับเรายังพอเหลือเวลา เพราะเราบินช่วงประมาณ 5 โมงเย็น เลยเหมารถตู้ต่อไปหาดใหญ่ คนละ 150 บาท แล้วเดินเที่ยวตลาดกิมย้ง ในตัวเมืองหาดใหญ่ ไก่ทอดหาดใหญ่อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ อิอิ ของกินเยอะดีนะ

ถ้ามาช่วงหน้าไฮซีซั่น เรือก็จะเยอะกว่านี้ คงมีเวลาได้เที่ยวมากกว่านี้ แต่คนก็จะเยอะเช่นกันความประทับใจครั้งแรก กับหลีเป๊ะให้ไปเลย 10/10 ถึงแม้จะมีฝนบ้าง ก็มีบรรยากาศที่ดีไปอีกแบบเราชอบที่คนน้อยด้วย แต่เราก็ไม่แนะนำให้ไปช่วงหน้าฝนนะ มันอันตรายหลายอย่างแต่เราผิดพลาดไปแล้ว 5555 มันก็ต้องไปอะนะ

รีวิวนี้รูปอาจจะไม่เยอะ รีวิวไม่ละเอียดเท่าไหร่ เพราะหาโอกาสจับกล้องยากมาก เดียวลงน้ำ เดียวฝนตก ยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ
ทริปจะสนุก ได้ต้องมีเพื่อนร่วมทริปที่ดี * ไปแล้วนะคะ ขอบคุณที่รับชม

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทริปการเดินทางและความทรงจำดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังจากสมาชิกพันทิปคุณ TEARTONG

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ